รวบแก๊งไนจีเรีย! ลวงเหยื่อโอนเงินกว่า 1 ล้าน

2018-05-28 15:20:40

รวบแก๊งไนจีเรีย! ลวงเหยื่อโอนเงินกว่า 1 ล้าน

Advertisement

ตำรวจจับกุมแก๊งมิจฉาชีพชาวไนจีเรียหลอกลวงเหยื่อผ่านเฟซบุ๊คโอนเงินกว่า 1 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา นำกำลังทำการควบคุมตัว นายโอชิทาดิม่า ไอบิห์ อายุ 28 ปี สัญชาติไนจีเรีย พร้อมของกลางเป็นบัตรเครดิต บัตรวีซ่า ธนาคารต่างๆจำนวน 11 ใบ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆจำนวน 20 เล่ม เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และเครื่องบันทึกข้อมูลแบบพกพา โดยกล่าวหาว่า มีไว้เพื่อใช้และใช้บัตรอิเลคทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในการทำการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนายชิเนดู คาร์ลิสตูส เอ็นดูบิซิ อายุ 30 ปี สัญชาติไนจีเรีย พร้อมของกลางเป็นภาพถ่ายบัญชีที่เข้าใช้จดหมายอิเลคทรอนิกส์ ในชื่อและภาพผู้อื่นจำนวน 3 บัญชี อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ข้อมูลเครื่องบันทึกข้อมูลแบบพกพา ซึ่งเป็นบทสนทนา จด หมาย และตำแหน่งทางการทหารของประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวน 15 แผ่น และซีเรียจำนวน 2 แผ่น โดยกล่าวหาว่า นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติมีพฤติกรรมหลอกลวงเหยื่อผ่านทางโปรแกรมเฟซบุ๊ค โดยอ้างตัวเป็นชาวยุโรปหรืออเมริกันฐานะดีเข้ามาพูดคุยเชิงชู้สาวหรือชักชวนให้ลงทุนโดยส่งทรัพย์สินหรือของมีค่าให้กับเหยื่อ พร้อมอ้างเหตุผลให้หลงเชื่อว่าต้องการใช้ชีวิตในวัยเกษียณที่ประเทศไทย และจะส่งของขวัญมาให้ทางพัสดุไปรษณีย์แก่เหยื่อซึ่งส่วนมากจะเป็นธนบัตรสกุลดอลลาร์จำนวนมาก แต่ติดอยู่ที่ด่านศุลกากรซึ่งจะต้องมีการเสียภาษีหรือค่าธรรมเนียมก่อน จึงหลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่เตรียมไว้เพื่อนำมาชำระ โดยพบว่ามีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก




ต่อมาทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า บัญชีที่มีการถ่ายโอนเงินเป็นบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ และมีผู้กดเงินถอนออกจากบัญชีที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาซอยอรุโณทัย พัทยากลาง จ.ชลบุรี และตู้เอทีเอ็มของ ธ.กสิกรไทย สาขาถนนสุขุมวิท-พัทยา จึงติดตามไปจับกุมตัวบุคคลทั้งสองได้ ซึ่งจากการสอบถาม นายไอบิห์ ให้การว่ามีชายสัญชาติเดียวกันนำบัตรต่างๆและสมุดบัญชีมามอบให้เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นก็จะโทรมาแจ้งให้ไปกดถอนเงินตามตู้ของธนาคารต่างๆ โดยทั้ง 2 จะได้ส่วนแบ่งจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์จากยอดที่กดออก ส่วนที่เหลือจะโอนให้ชายคนดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทย ซึ่งมียอดกว่า 1 ล้านบาท จากนั้นก็จะทำลายหลักฐานใบสลิปทั้งหมดก่อนถูกจับกุมดังกล่าว