“วิลาศ” จี้เลขาธิการสภาฯเปิดสเปคไอซีที

2018-05-27 21:25:44

“วิลาศ” จี้เลขาธิการสภาฯเปิดสเปคไอซีที

Advertisement

“วิลาศ” เรียกร้องเลขาธิการสภาฯแจงให้บริษัทเดียวเสนอราคาอุปกรณ์ไอซีทีกว่า 100 รายการ พร้อมเปิดสเปคและวิธีการเสนอราคาต่อสาธารณะ

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงงบประมาณระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่  ว่า  ขอเรียกร้องให้นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงวิธีการเสนองบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ อาทิ ราคาไมโครโฟน นาฬิกา โทรทัศน์ที่มีราคาสูงผิดปกติ เนื่องจากพบว่ามีการให้บริษัทรายหนึ่งเสนอราคาเกี่ยวกับอุปกรณ์ไอซีทีกว่า 100 รายการ จึงขอให้เปิดสเปคและวิธีการเสนอราคาต่อสาธารณะ เพื่อแสดงความโปร่งใสและตรวจสอบได้

นายวาศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการจัดซื้อจัดจ้างงานระบบปรับอากาศบริเวณทางเดินภายในอาคาร มูลค่า 395 ล้านบาท เท่ากับต้องใช้เครื่องปรับอากาศระบบตั้งเครื่อง 60,000 บีทียู จำนวน 6,583 ตัว ซึ่งมันจะเป็นไปได้หรือไม่ และการจัดซื้อจัดจ้างงานผนังรอบอาคารห้องประชุมส.ส.และส.ว. มูลค่า 230 ล้านบาท




นายวิลาศ กล่าวด้วยว่า ส่วนการจะใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษโดยอ้างเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนนั้น อาจผิด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ที่ให้รัฐวิสาหกิจที่มีธุรกิจหรือกิจการที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรงเท่านั้นที่เข้าข่ายออกระเบียบของตัวเองได้ โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ แต่หน่วยราชการอื่นต้องปฏิบัติพ.ร.บ.ดังกล่าว จึงไม่น่าจะจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษได้ ทั้งนี้การบริหารของสภาชุดปัจจุบัน ทั้งการก่อสร้างรัฐสภาใหม่และการบริหารบุคคลเละเทะมากที่สุด ขณะที่การของบประมาณไม่เป็นไปตามวิธีปกติที่จะต้องส่งให้สำนักงบประมาณวิเคราะห์งบประมาณก่อนเสนอไปยัง ครม. แต่กรณีนี้สภากลับส่งเรื่องให้ครม.พิจารณาอนุมัติเลย

นายวิลาศ กล่าวว่า นอกจากนี้พบว่ามีการเตรียมการให้คนกลุ่มเดียวเป็นกรรมการหลายชุดที่รับผิดชอบเรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภา โดยคนในกลุ่มนี้เกินครึ่งเคยถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมที่ส่อทุจริต แต่พ้นผิดหมดและกลับมารับผิดชอบโครงการนี้  ทั่งนี้ขอตั้งข้อสังเกตถึงการแต่งตั้ง ผอ.การสำนักสารสนเทศ สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คนใหม่ที่จบการศึกษาปริญญาตรีสาขาภาษาไทย ปริญญาโทสาขาจิตวิทยาและการแนะแนว โดยไม่เคยผ่านงานด้านสารสนเทศนั้น เป็นเพราะมีใครต้องการให้เป็นประธานจัดซื้อจัดจ้างในโครงการนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนจะรอบทสรุปของการเสนองบประมาณการโครงการนี้ว่าการจะปรับลดเหลือ 5,000 ล้านบาท มีรายละเอียดเป็นอย่างไร และถ้ายังมีปัญหาเหมือนเดิมเตรียมจะยื่นเรื่องร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบต่อไป