ตำรวจขยายผลค้นโรงงานคัดแยกขยะรีไซเคิล ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง หลังพบความเชื่อมโยง ว่าเป็นผู้ส่งซากขยะอิเลกทรอนิกส์ ไปยังโรงงานในจ.ฉะเชิงเทรา
เมื่อวันที 24 พ.ค. พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ โรงงานของบริษัทไวโรกรีน (ไทยแลนด์) จำกัดในย่านนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เนื่องจากการเข้าตรวจสอบโรงงานขยะพิษกากอุตสาหกรรมกว่าในจังหวัดฉะเชิงเทราที่ผ่านมาตรวจพบหลักฐานทางบัญชีว่าได้รับกากอุตสาหกรรมมาจากบริษัทดังกล่าว
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากการสอบถามนายซิ้น อัน สวร สัญชาติไต้หวัน กรรมการผู้จัดการบริษัทนี้ทราบว่าโรงงานนี้นำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ มาจาก 4 ประเทศ คือ ฮ่องกง อังกฤษ ศรีลังกา และสิงค์โปร โดยนำเข้ามาได้ประมาณ 3 ปี และพึ่งย้ายมาตั้งที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ได้ประมาณ 3 เดือน และปิดโรงงานที่สมุทรปราการไปแล้ว และจากการตรวจสอบพบว่าโรงงานนี้ส่งเศษซากขยะอุตสหกรรม ไปที่โรงงานรีไซเคิล ในอำเภอแปลงยาว และอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงมั่นใจว่า น่าจะมีความเชื่อมโยงกันในเรื่องของกลุ่มทุนชาวต่างชาติ ที่ทำธุรกิจประเภทนี้
เบื้องต้นโรงงานแห่งนี้ มีความผิด 7 ฐานความผิด เช่น การสำแดงเท็จการนำเข้า ,หลีกเลี่ยงภาษีอากรศุลกากร และลักลอบหนีศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลากรและมีความผิดฐานลักลอบนำเข้าและครอบครองวัตถุอันตราย เนื่องจากตรวจพบว่า มีแบตเตอรี่หลายชนิด เช่น ซากแบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นวัสดุอันตราย ห้ามนำเข้ามาในประเทศไทย
ขณะที่ นายสุรพล ชามาตย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่าโรงงานนี้มีใบอนุญาตประกอบกิจการทำลายขยะอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่ในส่วนของวัตถุอันตรายที่พบไม่สามารถนำเข้ามาเพื่อทำลายได้ จึงต้องตรวจสอบว่ามีการนำเข้าโดยวิธีใด และทำไมขั้นตอนการนำเข้าจึงสามารถปล่อยให้ขยะอุตสาหกรรม มากขนาดนี้เข้าภายในประเทศได้