“สุริยะใส” เตือน คสช.อย่าให้ปฎิรูปเป็นของเสีย

2018-05-20 15:55:15

“สุริยะใส” เตือน คสช.อย่าให้ปฎิรูปเป็นของเสีย

Advertisement

"สุริยะใส"แนะ คสช.แจงรูปธรรม 4 ปีปฏิรูปมากกว่าใช้โวหารวาทกรรมตอบโต้กันไปมา ชี้มีหลายเรื่อง คสช. ยังไม่ดำเนินการ เตือนอย่าทำให้ปฎิรูปประเทศกลายเป็นของเสีย

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิตและผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงวาระครบรอบ 4 ปีของคสช. ถือเป็นเรื่องปกติที่ภาคส่วนต่างๆออกมา ประเมินผลงานของ คสช. และรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งนั้นถือเป็นประเด็นที่มีการประเมินเป็นพิเศษเหตุเพราะสังคมคาดหวังการปฏิรูปสูง ซึ่งเป็นผลพวงจากคลื่นมวลมหาประชาชนซึ่งก็มีความเห็นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน แต่ คสช. ก็ควรน้อมรับคำวิจารณ์และที่สำคัญ คสช.ควรประมวลผลงานที่เป็นรูปธรรมแถลงหรือรายงานต่อประชาชนว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ คสช. ได้ปฏิรูปไปแล้ว หรือกำลังดำเนินการอยู่ โดยเอาข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมมาพูดกันมากกว่าจะใช้โวหารวาทกรรมตอบโต้กันไปมา

นายสุริยะใส กล่าวว่า บางเรื่องก็ต้องยอมรับว่า คสช. ได้ริเริ่มและวางแนวทางใหม่ๆไว้บ้าง ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานถึงจะเห็นผล บางเรื่องก็อยู่ระหว่างดำเนินการแต่ก็มีหลายเรื่องที่ คสช. ยังไม่ดำเนินการ ถ้าชี้แจงตรงไปตรงมาถึงความคืบหน้า ปัญหาอุปสรรคเชื่อว่าการปฏิรูปประเทศ จะไม่เป็นแค่เกมการเมืองที่ต่างคนต่างพูดเพื่อทำให้ตัวเองดูดีเท่านั้น อย่างไรก็ตามการปฏิรูปประเทศแม้มีความจำเป็นต้องคาดหวังกับทุกรัฐบาลแต่บทเรียนที่ผ่านมาเราต้องไม่ฝากความหวังไว้กับรัฐบาลอย่างเดียวเท่านั้นภาคส่วนต่างๆต้องร่วมกันแสดงพลังขับเคลื่อนเสนอแนะรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพราะการปฏิรูปเป็นเรื่องที่ต้องทำกันไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ทำครั้งเดียวในรัฐบาลเดียวแล้วจบเลยพรรคการเมืองก็เช่นกันจะต้องจริงจังกับความต้องการของประชาชนโดยเฉพาะการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ถ้าวาระเรื่องปฏิรูปประเทศไม่มีความชัดเจนหรือเป็นแค่เกมชิงอำนาจ การเมืองก็อาจจะวนกลับสู่ความล้มเหลวอีกครั้ง




"ทุกฝ่ายต้องเล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศไทยต้องได้รับการผ่าตัดหรือปฏิรูปในระดับโครงสร้างอย่างจริงจัง บางคนอาจมองว่าการปฏิรูปประเทศอาจจะเสียของในรัฐบาลหนึ่งหรือล้มเหลวในยุคสมัยหนึ่ง แต่ต้องไม่ทำให้การปฏิรูปกลายเป็นของเสีย หรือทำให้ประชาชนสิ้นหวังเพราะไม่เช่นนั้นเราจะกลายเป็นประเทศที่ไม่มีอนาคต"นายสุริยะใส กล่าว