ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “บล็อกเชน” หรือเครือข่ายการเก็บข้อมูล อาจเป็นอนาคตของวงการภาพยนตร์
ภาพ Macrovector / Shutterstock.com
ในการจัดประชุมเวิร์คชอปหลายครั้ง กลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพกำลังพยายามหาหนทางที่จะนำบล็อกเชนมาเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ผลิตและผู้ชมภาพยนตร์ จอห์นนี่ ปีเตอร์ส ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ “เกสคอยท์” กล่าวว่าบล็อกเชนเป็นอนาคตของวงการภาพยนตร์ ซึ่งจะมุ่งไปสู่อนาคตเท่านั้น ไม่มีการหวนกลับ
บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีในการสร้างเครือข่ายข้อมูลซึ่งเคยถูกใช้ระหว่างการส่งถ่ายข้อมูลระหว่างคนไม่กี่คน ปัจจุบันได้รับการยอมรับในวงกว้างโดยเฉพาะการใช้บล็อกเชนในคริปโตเคอร์เรนซี่อย่างบิทคอยน์
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพต้องการนำบล็อกเชนมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการผูกขาดการให้ทุนการผลิตภาพยนตร์โดยกลุ่มสตูดิโอรายใหญ่รวมถึงแก้ไขปัญหาการลักลอบขายภาพยนตร์เถื่อน
ภาพ Anne-Christine POUJOULAT / AFP
ด้านเทศกาลเมืองคานส์ ขานรับการก้าวไปสู่อนาคตด้วยการนำบล็อกเชนเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เจอโรม เพลลาร์ด ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์กล่าวว่า “ทุกวันนี้ทุกคนพูดถึงบล็อกเชน และเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าบล็อกเชนจะทวีความสำคัญมากขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆรวมถึงภาพยนตร์”
จุดประสงค์หนึ่งของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้คือการทำให้ผู้ผลิตภาพยนตร์มีอิสระมากขึ้นในการหาทุนสร้าง ทั้งนี้เนื่องจากผู้สร้างหลายคนประสบปัญหาในการขอทุนสร้างเพราะผู้ลงทุนไม่เห็นภาพว่าเงินที่ลงทุนจะไปอยู่ที่ไหนบ้าง บล็อกเชนซึ่งรวบรวมข้อมูลของทุกการใช้จ่ายจะช่วยทำให้เกิดความโปร่งใสและควบคุมได้เพราะมันสามารถให้ภาพกับผู้ลงทุนได้ว่าเงินลงทุนนั้นเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง นอกจากนี้ ข้อมูลที่ใส่ลงไปในบล็อกเชนยังเป็นข้อมูลที่ลบออกและเขียนทับซ้ำใหม่ไม่ได้ ทำให้ข้อมูลมีความโปร่งใสอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการใช้บล็อกเชนยังช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ บล็อกเชนจะทำให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ไม่จำเป็นต้องส่งภาพยนตร์ให้กับสตูดิโอใหญ่ๆเพื่อออกจำหน่าย แต่สามารถจำหน่ายโดยตรงให้กับผู้ชมที่สามารถเข้าชมภาพยนตร์ได้จากการมีดิจิตอลโทเค่น หรือที่รู้จักกันในนามคริปโตเคอร์เรนซี่
ในเดือนหน้า ฮอลลีวู้ดจะเผยแพร่ภาพยนตร์บล็อกเชนเรื่องแรกชื่อ “No Postage Necessary” โดยผู้กำกับเจเรมี่ คัลเวอร์ โดยจะออกอากาศให้ชมผ่านทางแอพลิเคชั่น Vevue ซึ่งฉายให้ชมในประเทศที่มีเทคโนโลยีบล็อกเชน ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการใช้บล็อกเชนจะทำให้ผู้ชมเปลี่ยนจากการลักลอบดูภาพยนตร์เถื่อน มาจ่ายเงินเพื่อดาวโหลดภาพยนตร์แทน เช่นเดียวกับที่แอพลิเคชั่นสปอติฟายทำสำเร็จมาแล้วในอุตสาหกรรมเพลง