ภรรยา “สันธนะ” ขอความเป็นธรรม ครอบครัวกระทบหนัก

2018-05-16 18:05:42

ภรรยา “สันธนะ” ขอความเป็นธรรม ครอบครัวกระทบหนัก

Advertisement

ภรรยา พ.ต.ท.สันธนะ ยื่นหนังสือถึง “อังคณา นีละไพจิตร” กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอความเป็นธรรม หลังครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างหนัก



เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นางพรรณี ประยูรรัตน์ ภรรยาของ พ.ต.ท.สันธนะ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นาง อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) หลังได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากการปฎิบัติหน้าที่และคำสั่งสนธิกำลังพลและอาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าบุกค้นคอนโดของพันตำรวจโทสันธนะ ย่านพหลโยธิน และบ้านพัก ย่านรามอินทรา




นางพรรณี บอกว่า หลังเกิเดเหตุ ตนเองไม่สามารถเข้าไปพักได้อีก เนื่องจากเกิดผลกระทบหลายอย่าง พร้อมทั้งมีการดักฟังโทรศัพท์ด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำบัญชีธนาคารของครอบครัว ไปตรวจสอบ ก่อนที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท. สันธนะ รวมทั้งสิ้นแล้ว 45 ข้อหา ซึ่งตนเองก็กลัวที่จะมีถูกยัดข้อหาคดีต่างๆ ด้วย ส่วนตัวยังมีความกังวลเรื่องของสามี ว่าจะเกิดอันตราย





นางพรรณี ระบุว่า การร้องเรียนในครั้งนี้ ต้องการให้ กสม. รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนเหตุจะบานปลายไปมากกว่านี้ พร้อมยืนยันตอนนี้ จะไม่ฟ้องร้องบุคคลใด แต่อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตามกฎหมายอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน



ส่วนกรณีที่พ.ต.ท. สันธนะ อาจถูกถอดยศ นั้น นางพรรณี ระบุว่า ได้รับข่าวเมื่อตอนเที่ยงที่ผ่านมา และมองว่าเป็นการดำเนินการที่รวดเร็วเกินกว่าปกติ และยศนั้นเป็นของสูงได้รับพระราชทาน ซึ่งไม่น่าจะถูกถอดถอนได้ง่ายขนาดนี้



พร้อมกันนี้ นางพรรณี ยืนยัน ไม่กลัวอิทธิพลและอำนาจ อยากให้เจ้าหน้าที่ตั้งบรรทัดฐานการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เป็นการกระทำอยู่บนมาตรฐานเดียวกับบุคคลอื่นหรือไม่ พร้อมมองว่าการกระทำดังกล่าวนั้นรุนแรงเกิน และส่งผลกระทบต่อครอบครัว หลังจากนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งวิงวอนอยากให้ครอบครัวตน เป็นครอบครัวสุดท้ายที่ถูกกระทำ /



ด้าน นาง อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจว่ามีการกระทำเกินกรอบของกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ส่วนกรณีที่ตำรวจเข้าไปบุกจับของพันตำรวจโทสันธนะภายในคอนโดมีเนี่ยม จะเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น เบื้องต้นรับแจ้งจากตำรวจว่ามีเหตุผลในการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่พร้อมมีหมายค้นด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องดูว่าการเข้าจับกุมมีความรุนแรงหรือไม่ รวมถึงพันตำรวจโทสันธนะ ได้รับสิทธินตามกฎหมายหรือไม่ รวมไปถึงการออกหมายเรียกบิดาของพันตำรวจโทสันธนะเข้ามาให้ปากคำ