นองเลือดรุนแรงที่สุดในวันเดียว อิสราเอลยิงผู้ประท้วงปาเลสไตน์ เสียชีวิตเกือบ 60 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 2,700 คน ขณะสหรัฐเปิดสถานทูตของตนอย่างเป็นทางการในเยรูซาเลม
กองทัพอิสราเอลยิงชาวปาเลสไตน์เสียชิวิตหลายสิบคน ในการปะทะกันครั้งนองเลือดที่สุดในวันเดียวตั้งแต่เกิดสงครามกันในปี 2557 ขณะที่ สหรัฐก็เปิดสถานทูตในเยรูซาเลมอย่างเป็นทางการ ซึ่งห่างจากจุดปะทะกันประมาณ 80 กิโลเมตร โดยกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ แถลงว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 58 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 2,700 คน ทั้งจากกระสุนจริง, แก๊สน้ำตาและอื่น ๆ ระหว่างการประท้วงกรณีการย้ายสถานทูตสหรัฐจากเทลอาวีฟ ไปยังเยรูซาเลม ตามความเห็นชอบของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ได้รับเสียงชื่นชมจากอิสราเอล แต่สร้างความโกรธแค้นต่อชาวปาเลสไตน์
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า ทหารของเขากำลังทำหน้าที่ป้องกันตัวเองระหว่างเกิดความรุนแรงบริเวณพรมแดนฉนวนกาซา แต่นายมาห์มูด อับบาส ผู้นำคณะบริหารปาเลสไตน์ ประณามว่าเป็นการ “ฆ่าหมู่” ขณะที่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเลวร้าย
ทั้งนี้ ความรุนแรงเกิดขึ้นขณะที่สหรัฐเปิดสถานทูตในเยรูซาเลม โดยย้ายจากเทลอาวีฟ ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจ เนื่องจากพวกเขาอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ด้านตะวันออกของเยรูซาเลม เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต พวกเขามองว่า การย้ายสถานทูตของสหรัฐ เป็นการสนับสนุนให้อิสราเอลยึดครองพื้นที่ทั้งหมดของเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ซึ่งอิสราเอลก็อ้างว่าเป็นเมืองหลวงของตนที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้เช่นกัน