อสส.นำ 9 จำเลยส่งฟ้องคดีบ้านเอื้ออาทร

2018-05-09 16:35:17

อสส.นำ 9 จำเลยส่งฟ้องคดีบ้านเอื้ออาทร

Advertisement

สำนักงานอัยการสูงสุดแจงคดี “วัฒนา” กับพวกรวม 19 คน คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร พร้อมนำ 9 คนส่งฟ้องศาล

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. สำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงคดีของนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) และพวก ว่า คดีนี้คณะกรรมการตรวจสอบได้ส่งสำนวนการตรวจสอบไต่สวนการกระทำที่กล่าวหานายวัฒนา เมืองสุข ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่ากระทำความผิดทุจริตต่อหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนโดยการเคหะแห่งชาติในโครงการบ้านเอื้ออาทรทำให้รัฐเกิดความเสียหาย ซึ่งต่อมาคณะกรรมการป.ป.ช.ได้ส่งรายงานการไต่สวนมาให้อัยการพิจารณา รวมกับสำนวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)

อัยการสูงสุดพิจารณาให้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์และมีการตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุดกับผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการป.ป.ช.รวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์เพื่อหาข้อยุติในการดำเนินคดี ต่อมาอัยการสูงสุดเห็นว่าคดีมีมูลพอฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 19 คนในคดีนี้จึงมีคำสั่งรับดำเนินคดีตามฐานความผิด




ซึ่งวันนี้ 9 พ.ค. อัยการได้นัดทั้ง 19 คนมาฟั่งคำสั่งฟ้องคดี แต่มีที่ตอบรับและเดินทางมาในวันนี้จำนวน 9 คน จึงนำส่งฟ้อง ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประกอบไปด้วย นายวัฒนา เมืองสุข จำเลยที่1 นายมานะวงศ์พิพัฒน์ จำเลยที่2 นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ จำเลยที่3 นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร จำเลยที่4 น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง จำเลยที่5 น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว จำเลยที่6 น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา จำเลยที่7 บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดยนายปกรณ์ อัศวีนารักษ์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน จำเลยที่8 บริษัทซิลเวอร์ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด โดยนางพิมพ์วรา รัชต์ธนโรจน์กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน จำเลยที่ 9





ส่วนฐานความผิดที่อัยการฟ้องจำเลยที่1 คือ ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148,157,83,91

ส่วนจำเลยที่2 ในฐานความผิดเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือ มิชอบด้วยหน้าที่ เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและเป็นผู้สนับสนุนนายวัฒนา เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด แก่ตนเองหรือผู้อื่นตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มตรา 6 ,11 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา83 91 148 ,86

ชณะที่จำเลยที่ 3-9 ฐานความผิด เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่1 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น และสนับสนุนจำเลยที่2 ซึ่งเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148, 86 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86,91



อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล โดยนายวัฒนา ได้เตรียมหลักทรัพย์ เพื่อเตรียมยื่นประกันตัวในวันนี้ด้วย ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือที่ยังไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ คณะอัยการชุดทำงานเปิดเผยว่า สามารถนำ 9 คนในวันนี้ส่งฟ้องได้เลยส่วนที่เหลือสามารถดำเนินการได้ในภายหลัง