กลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนที่ขายอาหารสัตว์ให้แก่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ชูป้ายประท้วงพร้อมยื่นหนังสือคัดค้านการรวมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กับสวนสัตว์เชียงใหม่ไปเป็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (องค์การสวนสัตว์)
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือเรื่องการจัดทำแผนการตลาด สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยการประชุมเพื่อเป็นการยกระดับเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่
โดยระหว่างการประชุมได้มีกลุ่มสี่ล้อแดง และกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนที่ขายอาหารสัตว์ให้แก่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มาชูป้ายประท้วงคัดค้านการรวมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กับสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนได้ยื่นหนังสื่อถึงนางกอบกาญจน์ มีใจความว่าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ที่ให้โอนสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ไปเป็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (องค์การสวนสัตว์) และศูนย์ประชุมนานาชาติ ไปเป็นของกระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) นั้น ในฐานะที่พวกเราเป็นชุมชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ 4 ตำบล โดยรอบเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และเป็นผู้สนับสนุนและผลักดันให้สร้างเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของชุมชน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชน และเป็นประโยชน์กับ จ.เชียงใหม่ และหวังให้ชาวบ้านมีรายได้และอาชีพเลี้ยงครอบครัวจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และที่ผ่านมาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกับชุมชนก็มีความร่วมมือในการสร้างงานกระจายรายได้ให้ถึงพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด และพวกเรามีความผูกพันและความสัมพันธ์อันดีกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนมาถึงปัจจุบันเป็นเวลา 12 ปี
“พวกเราได้รวมตัวในนามวิสาหกิจชุมชน 4 ตำบล ทั้ง ต.หนองควาย ต.แม่เหียะ ต.บ้านปง และ ต.สุเทพ เพื่อจัดหาอาหารสัตว์ให้กับชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งได้กระจายผลประโยชน์อย่างทั่วถึงไปยังพี่น้อง 4 ชุมชน และยังมีเครือข่ายพี่น้องเกษตรกรในอำเภอต่างๆทั้งใน จ.เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน ที่ร่วมกันจัดหาอาหารสัตว์ให้แก่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทำให้มีการกระจายรายได้ไปหลากหลายจังหวัด พวกเราในนามชุมชน ไม่เห็นด้วยความมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 20 มิ.ย.60 ให้ยุบศูนย์ประชุม และเลิกจ้างพนักงาน และต่อไปก็จะเป็นคิวของเชียงใหม่ไนท์ซาฟรีที่จะโอนไปให้องค์การสวนสัตว์ ลูกหลานของประชาชนชาวเชียงใหม่ทำงานกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมานานนับ 10 ปี ทั้งจ้างเป็นพนักงานประจำ และจ้างแบบชั่วคราว พวกเรามีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง ที่ลูกหลานของเราจะต้องมาถูกเลิกจ้าง ทั้งๆที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีพวกเรารุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายร่วมพลักดันให้เกิดขึ้นมา พวกเราเป็นผู้สร้างและเหตุใดท่านต้องมาเป็นผู้ทำลาย
การจะเอาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปให้องค์การสวนสัตว์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และพวกเราได้มีการคัดค้านทุกครั้ง พวกเราไม่เป็นด้วย พวกเราต้องการให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีอยู่กับสำนักงานพัฒนาพิงคนครต่อไป พวกเราไม่มีความเชื่อมั่นว่าองค์การสวนสัตว์จะบริหารได้ดีกว่าพิงคนคร และไม่เชื่อมั่นว่าองค์การสวนสัตว์จะมีศักยภาพเพียงพอที่จะดูและบริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพราะองค์การสวนสัตว์ยังบริหารให้สวนสัตว์เชียงใหม่มีฐานะขาดทุน ในขณะที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีบริหารโดยพิงคนครสามารถเลี้ยงตัวเองได้"
ภายหลังนางกอบกาญจน์ ได้รับหนังสือก็รับปากกับกลุ่มผู้ชุมชนว่าจะนำเรื่องนี้พิจารณา และจะแจ้งให้ทางรัฐบาลทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากการยื่นหนังสือถึงนางกอบกาญจน์ แล้วทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตอาหารสัตว์ส่งไนท์ซาฟารี ได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเพิกถอนมติ ครม. 13 มี.ค.2561 ดังกล่าวคือ คณะรัฐมนตรีที่อนุมัติตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนครแทนประธานกรรมการที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2560 แล้วแต่งตั้งใหม่ 7 คน เป็นคำสั่งก่อตั้งสิทธิ์ที่มิชอบด้วยกฏหมาย เพราะเป็นคำสั่งทางปกครองตามกฏกระทรวง ฉบับที่ 2 พ.ศ.2540 ออกตามความในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539(1) การแต่งตั้งที่เป็นการก่อสิทธิ์ซึ่งเป็นกรณีอื่น และเป็นคำสั่งทางปกครองที่เกิดจากเจตนาไม่สุจริต มีข้อความที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนในสาระสำคัญ และมิได้เป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย ตามบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 44 ถึงมาตรา 48 และมาตรา 49 ถึงมาตรา 41 และบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการและกรรมการที่มีคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ตามพระราชกฤษฏีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์กรมหาชน) พ.ศ.2546 มาตรา 14 (5) ขอศาลมีคำสั่งพิพากษาสั่งห้ามสำนักงานพัฒนาพิงคนคร โดยคณะกรรมการชุดปัจจุบัน ดำเนินการถ่ายโอนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปสังกัดกับ องค์การสวนสัตว์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และดำเนินการถ่ายโอนหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนพรรษาไปสังกัดกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง