สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก 3 พ.ค.2561 “ปลดล็อกคำสั่ง คสช. ทวงคืนเสรีภาพประชาชน”
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดกิจกรรมวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก (World press freedom day) โดยนายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย อ่านแถลงการณ์วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก “ปลดล็อกคำสั่ง คสช. ทวงคืนเสรีภาพประชาชน” ว่า ในปัจจุบัน สถานการณ์ด้านเสรีภาพของสื่อมวลชนไทยอยู่ในภาวะไม่ปกติ ยังอยู่ภายใต้ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลายฉบับ เปิดทางให้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซง ควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนเป็นระยะๆ เข้าข่ายปิดกั้น ลิดรอนสิทธิการรับรู้ข่าวสาร และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชน ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่มีเนื้อหาให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร การแสดงความเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ หากเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนใช้สิทธิเกินขอบเขตก็สามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย หรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรสื่อ เช่น สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ประกาศ หรือคำสั่งของ คสช.
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยอยู่ในช่วงขับเคลื่อนตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ รวมถึงแผนปฏิรูปด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจะพัฒนาระบบนิเวศสื่อเพื่อสร้างกลไกการปฏิรูปสื่อในประเทศไทย อาทิ มีข้อเสนอให้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและวิชาชีพสื่อมวลชน ภายใต้การกำกับกันเองของสื่อมวลชนในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ และเข้มข้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะมีกฎหมายอีกหลายฉบับออกมาบังคับใช้ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ที่มีความสุ่มเสี่ยงให้นิยาม “การปกป้องคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านสารสนเทศของประเทศ” จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชนตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
ในโอกาสวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ขอเสนอต่อฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ให้รัฐบาลโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องระมัดระวังการออกกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน พร้อมกับ “โละ เลิก ล้าง” ประกาศหรือคำสั่งของ คสช. ที่ลิดรอนเสรีภาพสื่อ ซึ่งก็คือเสรีภาพของประชาชนนั่นเอง เพื่อให้การดำเนินงานของสื่อสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และกำลังเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งตามโรดแมป
2. ให้ คสช. และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องปฏิรูปสื่อวิทยุและโทรทัศน์ โดยปราศจากการครอบงำ
3. เรียกร้องให้ประชาชนและผู้ใช้สื่อในทุกแพลตฟอร์ม ระมัดระวังในการเผยแพร่ หรือส่งต่อข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ข่าวปลอม (Fake News) ที่ไหลทะลักบนสื่อออนไลน์ และขอให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบ ควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนให้อยู่ในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
4. เรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนง ทุกแพลตฟอร์ม พึงตระหนักการทำหน้าที่ภายใต้กรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ โดยเฉพาะการปฏิรูปสื่อมวลชน และขอยืนหยัดพร้อมที่จะรับการถูกตรวจสอบจากสังคม ด้วยวิถีทางอันถูกต้อง ชอบธรรมด้วยกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตย