รวมทุกเรื่องต้องรู้! ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน
เมื่อต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยบ้านที่สูงกว่าความจำเป็น หลายคนเริ่มมองหาทางออกด้วยการรีไฟแนนซ์บ้านและขอลดดอกเบี้ยบ้าน เพราะต้องการผ่อนสบายขึ้น จ่ายน้อยลง แต่การรีไฟแนนซ์ไม่ใช่แค่เรื่องการลดดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ควรรู้ให้ลึกก่อนตัดสินใจ
ทำไมการรีไฟแนนซ์บ้านและขอลดดอกเบี้ยบ้านจึงสำคัญ?
ในช่วงแรกของการกู้ซื้อบ้าน หลายธนาคารมักเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำแบบพิเศษ แต่หลังจากผ่านไป 3 ปี ดอกเบี้ยมักจะขยับสูงขึ้นจนเห็นความแตกต่างชัดเจน เช่น จาก 2.5% ขึ้นเป็น 5% ต่อปี ส่งผลให้ยอดผ่อนรายเดือนพุ่งขึ้นโดยอัตโนมัติ
การรีไฟแนนซ์บ้านหรือขอลดดอกเบี้ยบ้านจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระทางการเงินในระยะยาว ยิ่งได้อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ต่ำลง ยอดเงินที่ประหยัดได้ตลอดอายุสัญญาก็ยิ่งมากขึ้น
เช็ก 5 ข้อสำคัญ ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์
1. อ่านเงื่อนไขสัญญาเก่าอย่างละเอียด
สัญญาเงินกู้เดิมมีข้อกำหนดเรื่อง "ค่าปรับปิดบัญชีก่อนกำหนด" หรือไม่? หากมี ต้องคำนวณว่าค่าปรับนั้นสูงจนไม่คุ้มกับการรีไฟแนนซ์หรือเปล่า บางธนาคารเก็บค่าปรับ 2-3% ของเงินกู้คงเหลือ ซึ่งถือว่าเยอะไม่น้อย
2. เปรียบเทียบดอกเบี้ยแบบรอบด้าน
อย่าเลือกธนาคารใหม่จากแค่ "ดอกเบี้ยปีแรก" แต่ควรพิจารณา
- ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก
- ดอกเบี้ยลอยตัวหลังหมดโปรโมชั่น
- เงื่อนไขการลดดอกเบี้ยระยะยาว
การดูเฉพาะตัวเลขสวยๆ ช่วงโปร อาจทำให้พลาดค่าใช้จ่ายจริงที่สูงกว่าในอนาคต
3. สำรวจค่าใช้จ่ายทั้งหมด
รีไฟแนนซ์ไม่ได้มีแค่การลดดอกเบี้ย ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ตามมาด้วย เช่น
- ค่าจดจำนอง 1%
- ค่าประเมินหลักทรัพย์
- ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ
- ค่าบริการอื่นๆ
แนะนำว่าควรขอใบเสนอราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดล่วงหน้า แล้วนำมาคำนวณความคุ้มค่ารวมด้วย
4. ตรวจเครดิตและสถานะการเงิน
ธนาคารใหม่จะตรวจสอบเครดิตบูโร รายการเดินบัญชี และภาระหนี้ทั้งหมด หากมีหนี้เสีย หรือมีภาระหนี้สูงเมื่อเทียบกับรายได้ โอกาสที่จะได้รีไฟแนนซ์ในเงื่อนไขดีๆ จะลดลงทันที
ควรเคลียร์ภาระหนี้ และรักษาประวัติการชำระหนี้ให้ดี ก่อนยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์
5. เจรจาต่อรองกับธนาคารเดิม
ก่อนย้ายบ้านการเงินไปที่ใหม่ ลองเจรจากับธนาคารเดิมดูก่อน หลายครั้งธนาคารเสนอโปรแกรม "Retention" คือข้อเสนอพิเศษเพื่อลูกค้าเดิม เช่น ลดดอกเบี้ยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายย้ายสัญญา เพราะหากได้เงื่อนไขดีจากธนาคารเดิม อาจไม่ต้องเสียเวลาทำรีไฟแนนซ์ใหม่เลยก็ได้
เลือกจังหวะรีไฟแนนซ์ให้ได้ประโยชน์สูงสุด จังหวะเวลาที่เหมาะสมในการรีไฟแนนซ์บ้านและขอลดดอกเบี้ยบ้าน คือหลังผ่อนชำระครบ 3 ปี (พ้นช่วงโปรโมชั่น) และตลาดดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงต่ำ เพราะหากรอจนนโยบายดอกเบี้ยขาขึ้น รีไฟแนนซ์อาจได้อัตราดอกเบี้ยที่แพงกว่าเดิม
นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลการเงินใหญ่ๆ เช่น งานมหกรรมการเงินหรืองานอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารมักมีโปรรีไฟแนนซ์พิเศษที่น่าสนใจ ควรติดตามไว้เพื่อคว้าโอกาสลดต้นทุนได้มากที่สุด
เรียกได้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านและขอลดดอกเบี้ยบ้านเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยบริหารหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก่อนก้าวสู่กระบวนการนี้ ควรเช็กให้ครบทุกมิติตั้งแต่สัญญาเก่า เงื่อนไขใหม่ ค่าใช้จ่ายแฝง จนถึงสถานะเครดิตของตนเอง
ดังนั้นการวางแผนอย่างรอบคอบตั้งแต่ต้น จะช่วยให้รีไฟแนนซ์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลดดอกเบี้ย แต่ยังทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระการเงินในอนาคตอีกด้วย.