5 ข้อควรรู้ก่อนขอสินเชื่อ SME คุณพร้อมแล้วหรือยัง ?
การขอสินเชื่อ SME เป็นก้าวสำคัญที่อาจกำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของกิจการคุณได้ หลายคนมองว่าการได้รับอนุมัติเงินกู้คือจุดหมาย แต่ความจริงแล้ว กระบวนการเตรียมตัวก่อนยื่นขอกู้ต่างหากที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน
บทความนี้จะนำเสนอ 5 ข้อสำคัญที่ผู้ประกอบการ SME ควรรู้และเตรียมพร้อมก่อนยื่นขอสินเชื่อ
1. ประเมินความต้องการทางการเงินให้ชัดเจน
ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ SME คุณต้องวิเคราะห์อย่างละเอียดว่าต้องการเงินเท่าไร และเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ความผิดพลาดที่พบบ่อยคือการประเมินวงเงินต่ำเกินไป ทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่อง หรือการขอวงเงินสูงเกินความจำเป็น จนก่อให้เกิดภาระดอกเบี้ยที่ไม่จำเป็น
ผู้ประกอบการควรจัดทำแผนการใช้เงินที่ละเอียด โดยแยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน เช่น เงินทุนหมุนเวียน การลงทุนในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ การขยายกิจการ หรือการปรับปรุงสถานที่ พร้อมระบุระยะเวลาที่ต้องใช้เงิน และคาดการณ์ผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนดังกล่าว
2. เตรียมเอกสารการเงินให้พร้อมและเป็นระบบ
สถาบันการเงินจะพิจารณาสถานะทางการเงินของธุรกิจคุณอย่างละเอียด ดังนั้น คุณควรเตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม ซึ่งประกอบด้วย
- งบการเงินย้อนหลัง 2-3 ปี
- รายงานบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6-12 เดือน
- เอกสารการชำระภาษี ภ.พ.30, ภ.ง.ด.50 หรือ ภ.ง.ด.90/91 ย้อนหลัง
- ทะเบียนการค้า หนังสือรับรองบริษัท และเอกสารจดทะเบียนธุรกิจอื่น ๆ
- แผนธุรกิจและประมาณการรายได้ในอนาคต
นอกจากการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนแล้ว การจัดระบบบัญชีที่เป็นระเบียบ สะท้อนรายได้ที่แท้จริงของธุรกิจ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาผู้พิจารณาสินเชื่อ
3. ตรวจสอบเครดิตส่วนบุคคลและธุรกิจ
ประวัติเครดิตมีผลอย่างมากต่อการพิจารณาสินเชื่อ ทั้งเครดิตส่วนบุคคลของเจ้าของกิจการ และเครดิตของธุรกิจเอง ก่อนยื่นขอสินเชื่อ SME คุณควรตรวจสอบรายงานเครดิตจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้หรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หากพบปัญหาในรายงานเครดิต ควรดำเนินการแก้ไขทันที โดยการชำระหนี้ค้างให้เรียบร้อย หรือหากมีข้อมูลผิดพลาด ให้ติดต่อ NCB เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
การมีเครดิตที่ดีจะเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม
4. เข้าใจเงื่อนไขและค่าใช้จ่ายแฝง
ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ SME แต่ละประเภทมีเงื่อนไขและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ที่คุณควรทำความเข้าใจ เช่น
- ค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ (Front-end Fee)
- ค่าประเมินหลักประกัน
- ค่าเบี้ยประกันทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน
- เงื่อนไขการชำระคืนก่อนกำหนด และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
- เงื่อนไขการผิดนัดชำระหนี้ และค่าปรับ
การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์สินเชื่อจากหลายสถาบันการเงินจะช่วยให้คุณเลือกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ อย่าลังเลที่จะต่อรองเงื่อนไขหากคุณมีประวัติการเงินที่ดี
5. เตรียมแผนสำรองหากไม่ได้รับอนุมัติ
แม้จะเตรียมตัวอย่างดีแล้ว แต่การไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ผู้ประกอบการที่ชาญฉลาดควรมีแผนสำรองเสมอ เช่น
- พิจารณาสถาบันการเงินทางเลือก เช่น สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ หรือโครงการค้ำประกันสินเชื่อ
- ปรับลดขนาดโครงการหรือแบ่งระยะการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงและวงเงินที่ต้องขอกู้
- มองหาพันธมิตรทางธุรกิจหรือนักลงทุน เพื่อระดมทุนในรูปแบบอื่น
- หากเหตุผลการปฏิเสธคือปัญหาด้านเอกสารหรือแผนธุรกิจ ควรปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำก่อนยื่นขอใหม่
- การมีความยืดหยุ่นและพร้อมปรับตัวเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ
สรุป
การเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบก่อนยื่นขอสินเชื่อ SME เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการได้รับอนุมัติวงเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้ การวางแผนการเงินที่ดียังช่วยให้คุณบริหารเงินกู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
วันนี้คุณพร้อมแล้วหรือยังสำหรับการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้วยสินเชื่อ SME ที่เหมาะสม ?