ชาวประมงหวั่นกระทบอาชีพหากประกาศพื้นที่หาดทรายน้อยห้ามทำการประมงทุกชนิด ขณะที่นักท่องเที่ยวแห่เซลฟี่ทิวทัศน์หาดดังอย่างคึกคัก
จากที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) จะออกประกาศเขตคุ้มครองพื้นที่บริเวณหาดทรายน้อยและหน้าวัดถ้ำเขาเต่า หมู่บ้านเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห้ามทำการประมงใดๆอย่างเด็ดขาดโดยขณะนี้ทางเทศบาลเมืองหัวหินได้นำป้ายห้ามลงเล่นน้ำและห้ามทำการประมงไปติดไว้ที่บริเวณดังกล่าวแล้วหลังมีนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ถูกฉลามทำร้ายบาดเจ็บเมื่อกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 2 พ.ค.นางโสภา แจ้งสว่าง อายุ 51 ปี ชาวประมงหมู่บ้านเขาเต่า กล่าวว่าหลังจากมีข่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติโดนฉลามกัดก็มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาเพื่อรอดูฉลาม ส่วนที่มีข่าวคนตกฉลามได้นำไปขายตัวละ 2,000-3,000 บาทนั้นมีจริงแต่เคยมีมานานแล้ว บางครั้งชาวประมงออกหาปลาก็มีฉลามหนักตัวละ 40-50 กิโลกรัมมาติดอวนอยู่เป็นประจำก็ขายได้ กก.ละ 50-80 บาทเป็นเงินหลายพันบาท การที่มีฉลามอยู่บริเวณนี้ถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนที่นี่เพราะอยู่คู่กับทะเลมานานอย่าได้ตื่นตระหนกและเรื่องที่ฉลามจะทำร้ายคนนั้นเป็นไปได้ยากเพราะตนอยู่มาตั้งแต่เด็ก ส่วนฉลามที่กัดนักท่องเที่ยวนั้นคงงับตามสัญชาตญาณคิดว่าเป็นเหยื่อ
นางโสภา กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้ข่าวว่ามีคนนำปลาทูขนาดใหญ่มาขายให้นักท่องเที่ยวโยนลงทะเลบริเวณนี้เพื่อรอดูฉลาม ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเพราะจะทำให้ฉลามหาอาหารกินเองไม่เป็นเมื่อหิวก็อาจจะทำร้ายคนที่ลงไปเล่นนํ้าทะเลได้อีกและทำให้เสียระบบนิเวศด้วย ส่วนเรื่องจะให้เขตพื้นที่นี้เป็นเขตห้ามทำประมงซึ่งปกติเรือประมงเล็กออกหาปลาได้แค่บริเวณตามเกาะตามชายฝั่งเท่านั้น หากประกาศเป็นเหมือนเขตพระราชฐานอย่างเขตฝั่งทางวังไกลกังวล(ฝั่งบ้านพ่อ) และเขตหาดทรายใหญ่ (ฝั่งบ้านแม่) เกรงว่าชาวประมงจะออกหาปลาเลี้ยงชีพไม่ได้เพราะที่นี่ทำอาชีพประมงเป็นหลัก ในส่วนที่เป็นเขตอภัยทานบริเวณวัดนั้นปกติเราก็ไม่เข้าไปหาปลาอยู่แล้ว
ขณะที่บรรยากาศช่วงกลางวันบริเวณวัดถ้ำเขาเต่าก็มีประชาชนมาดูฉลามแต่ไม่มากนักเนื่องจากน้ำทะเลลง มีเพียงหาดทรายน้อยที่นักท่องเที่ยวเดินเล่นตามชายหาดแต่ไม่ลงเล่นน้ำพร้อมถ่ายเซลฟี่ทิวทัศน์ที่สวยงามกันอย่างคึกคัก
