กลุ่มขอคืนพื้นที่ป่าฯ เตรียมต้อนรับ รมต.สุวพันธุ์ 6 พ.ค.นี้

2018-05-02 18:00:12

กลุ่มขอคืนพื้นที่ป่าฯ เตรียมต้อนรับ รมต.สุวพันธุ์ 6 พ.ค.นี้

Advertisement

กลุ่มเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เตรียมต้อนรับ รมต.สุวพันธุ์ เจรจาเรื่องบ้านพักศาล 6 พ.ค.นี้ พร้อมเตรียมข้อเสนอ ถึงแม้ไม่สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์แต่น่าจะมีสัญญาณที่ดีสำหรับคนเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ห้องประชุม ภายในวัดล่ามช้าง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นายบัณรส บัวคลี่ ภาคีฮักเจียงใหม่ นายชัชวาล ทองดีเลิศ มูลนิธิสืบสานล้านนา นางคำสีดา แป้นไทย กลุ่มเฮาฮักเจียงใหม่ น.ส.ลักขณา ศรีหงส์ และนายนิคม พุทธา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำปิง พร้อมคณะทำงานขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และกลุ่มภาคีเครือข่ายต่างๆ กว่า 40 เครือข่าย ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อวางแนวทางในการขับเคลื่อนเพื่อทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ซึ่งในที่ประชุมก็ได้มีการผลัดเปลี่ยนกันพูดถึงประเด็นและแนวทางต่างๆ มากมาย ทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติว่าจะฟื้นฟูอย่างไร การรวบรวมเพลงที่ใช้ในการรณรงค์คัดค้านให้มารวมกันเป็นอัลบั้มเดียว การประชุมเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในแนวทางเดียวกัน และการต้อนรับ รมต.สุวพันธุ์ ที่จะเดินทางมาเจรจาในวันที่ 6 พ.ค. 61 นี้

นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวย้ำว่า การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้เราไม่ได้ออกมาค้านในวันที่กำลังก่อสร้างเสร็จ แต่เคลื่อนไหวคัดค้านมานาน 3 ปีแล้วตั้งแต่ปี 2556 แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ไม่ได้รับฟังและยืนยันว่าทำถูกต้องตามกฎหมาย จนกระทั่งได้ประชาชนทุกกลุ่มในโซเชียลเป็นพลังสำคัญในการเคลื่อนไหว เป้าหมายเราคือการรื้อบ้านพักตุลาการ ซึ่งประชาชนทุกคนเข้าใจวัตถุประสงค์หลักที่เป็นหัวใจของเครือข่าย เราไม่ต้องการให้ใครเข้าไปใช้ประโยชน์ หรือที่เรียกว่าโนแมนแลนด์




นายกำจร สายวงศ์อินทร์ จากกลุ่มรักษ์แม่ปิง กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าแม้รัฐมนตรีฯ จะมาประชุมก็เชื่อว่าจะไม่ได้ข้อสรุป หน่วยงานรัฐยังคงมีข้ออ้างทางกฎหมายในแง่ทรัพย์สินทางราชการทุบทิ้งไม่ได้ แต่ในฐานะอาจารย์ทางกฎหมายที่จบมาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดขอแนะนำว่าต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการรวบรวมข้อมูลยื่นฟ้องศาลปกครองเป็นมาตรการสุดท้ายในการเคลื่อนไหว

ด้าน นายบัณรส บัวคลี่ ภาคีฮักเจียงใหม่ ซึ่งได้ขับเคลื่อนในคณะกรรมการเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมว่า ทางเราได้รับการประสานงานจากท่านรัฐมนตรี สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อเช้านี้ เบื้องต้นจะมีการเจรจาคุยกันนอกรอบ อาจจะใช้โทรศัพท์ โดยมีทีมประสานงานเพื่อดูรายละเอียด วาระต่างๆ ข้อเสนอของแต่ละฝ่าย ก่อนจะนำไปสู่วันที่ 6 พ.ค. 61 เวลา 10.00 น. เราได้ประสานไปว่าจะไม่เอาคณะกรรมการชุดใหม่ที่จะมาพิจารณาทุกเรื่อง ให้แล้วเสร็จทุกเรื่องแล้วค่อยประกาศ แนวทางที่เราเสนอคือ แนวทางอะไรที่บรรลุแล้ว ก็ให้ประกาศเลย อะไรที่ยังติดขัดอยู่ก็ตั้งคณะกรรมการเพื่อหาทางออก วิธีการแบบนี้ก็คล้ายกับ "WTO" ที่พิจารณาเป็นวาระ อะไรที่ลุล่วงก็บรรลุล่วงไป อะไรที่ไม่ได้ก็หาวิธีกันไปก็จะเร็วขึ้น



เพราะฉะนั้นในวันที่ 6 พ.ค. 61 นี้ เราคาดหวังว่าจะมีอะไรที่ชัดเจนขึ้น มีข่าวดีขึ้นเพราะเบื้องต้น ตัวแทนของภาครัฐและตัวแทนของเรา มีจุดลงตัวอยู่แล้ว อย่างเช่น เรื่องของการฟื้นฟูโดยด่วน เพราะมีการเปิดหน้าดินอย่างรุนแรงและจะทำให้เกิดอันตราย ซึ่งลงตัวกันแล้ว และคงจะประกาศโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง ส่วนเรื่องที่รอคอยและน่าจะเป็นข่าวดีได้ในวันที่ 6 พ.ค. 61 เราเสนอไปว่า ไหนๆ คนชาวเชียงใหม่ก็อยากให้ท่านไปอยู่ที่อื่นกัน เป็นไปได้ไหมที่ทางรัฐบาลและทางศาลคุยกันแล้วรัฐบาลก็หาสถานที่ใหม่ให้กับทางสำนักงานศาล แล้วจัดงบประมาณได้ หากลงตัวอย่างนั้นก็ประกาศเลยในวันที่ 6 พ.ค. สิ่งนี้ถ้าบรรลุก็จะเป็นข่าวดีอีกอย่างหนึ่ง แต่อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ได้เสนอไป

ส่วนเรื่องที่ทางรัฐบาลยังกังวลอยู่ก็คือเรื่องข้อกฎหมายในการรื้อ อาจจะต้องคณะกรรมการร่วมออกไป คือเป็นแนวโน้มไม่ใช่ข้อสรุป เป็นข้อเสนอของคณะทำงานที่ประสานงานเบื้องต้นก่อนจะถึงวันที่ 6 พ.ค. แต่ในห้วงระหว่างนี้ทางเราจะยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว และแนวทางหรือผลออกมาว่าจะไม่รื้อ ทางเราก็ยืนยันว่าจะรื้อและตั้งคณะกรรมร่วมว่า ทำไมถึงจะรื้อและทำไมถึงรื้อไม่ได้จะต้องคุยกัน ในที่สุดแล้วหากตกลงช่วงที่คุยกันได้ว่าจะรื้อ แล้วรื้ออย่างไร ไม่รื้ออย่างไร ก็ขอให้เป็นโนแมนแลนด์ก่อน ไหนๆ ท่านก็ไม่อยู่แล้ว ก็จะเป็นที่รอมชอม เป็นวิธีการที่คุยกันได้จะได้ไม่เป็นปฏิปักษ์ ไม่ต้องเผชิญหน้า เป็นวิธีทางแนวทางที่ได้เสนอไป และเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ตัวแทนของรัฐบาลเข้าใจพวกเราว่าไม่ได้เป็นผู้โค่นล้ม ล้มล้างอะไร เป็นจุดเชื่อมโยงที่ดีมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว จึงทำให้การเจรจาต่างๆ คืบหน้าไป แต่ในระหว่างนี้แม้ว่าจะมีการเจรจา กำหนดว่าเจรจา ทางเครือข่ายภาคประชาชนนั้น ก็ยังมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมเริ่มในวันที่ 2 - 4 พ.ค. 61 คือ เขียวไปทั้งเมือง จะขยายพื้นที่สีเขียว พันธมิตรที่สนับสนุนตามชุมชน ตามถนนสายต่างๆ ให้เขียวไปทั้งถนนทั้งสาย ชุมชนไปทั้งชุมชน ขยายไปเรื่อยๆ โดยจะมีการระดมอาสาสมัครไปแจกจ่าย นำริบบิ้นออกไปติดตามถนน ตามชุมชนของตน

หากวันที่ 6 พ.ค. การเจรจาไม่เป็นผลตามที่ต้องการจะยกระดับตามที่เคยพูดคุยเรื่องสงคราม 9 ทัพไว้หรือไม่ โดยนายบัณรส กล่าวว่า การเจรจาคงจะไม่แบบได้หมดเสียหมด ดังนั้น ประเด็นของเราและประเด็นของรัฐบาล มีการปูทางกันเบื้องต้น มีทั้งประเด็นแบบง่ายและประเด็นแบบยาก ถ้าไม่สำเร็จคือไม่เอาสักอย่าง ซึ่งความเป็นไปได้มีน้อย และคงไม่อยากเห็นการปฏิเสธไปทั้งหมด ความผิดหวังของแต่ละฝ่าย ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทางรัฐบาลก็ไม่ยอมทางเราก็ไม่ยอมคงมีการแตกหัก แต่ดูท่าทีจากการเจรจาเบื้องต้น ทางฝ่ายเราก็บอกกับท่านว่า เราไม่แตกหักแข็งขืน ยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา ทางท่านเองทางผู้ประสานงานเราเสนอไปก็รับของเราเพื่อจะไปปรับปรุงตามนั้น



ฟังน้ำเสียงของท่านรัฐมนตรีฯ ที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่กรุงเทพฯ ว่า น่าจะได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ก็เป็นความคาดหวังของท่าน ก็ตรงกับความคาดหมายของเราที่อยากให้เกิดอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเช่นเดียวกัน เมื่อทั้งสองฝ่ายมีความคาดหวังที่ตรงกันแล้ว สัญญาณดีๆ ก็จะโผล่มา ซึ่งเราก็ไม่คิดว่าจะเกิดความผิดหวังแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่ได้อะไรเลย และกรณีที่มีการเปิดเว็บเพจไทยคู่ฟ้า จะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ ท่านก็ได้เห็นว่ามีคนอยากให้รื้อมากที่สุด เยอะกว่าคนที่ไม่อยากให้รื้อ รัฐบาลก็จะได้เห็น ส่วนการเสนอให้มีประชามติ เป็นข้อเสนอที่ดี ซึ่งก็เป็นอีกข้อเสนอหนึ่งที่จะหยิบมาพิจารณา