แม้ว่าผลการวิจัยจะระบุว่าวัยที่เรียนภาษาได้ดีที่สุดควรมีอายุน้อยกว่า 10 ขวบ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด นอกจากนี้การเรียนภาษาในวัยผู้ใหญ่ยังสามารถช่วยลดภาวะสมองเสื่อมได้เป็นอย่างดี
จากการวิจัยพบว่าช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว โดยถ้าคุณต้องการความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ คุณควรเริ่มต้นก่อนอายุ 10 ปี โดยผลการวิจัยในวารสาร Cognition ที่ใช้กลุ่มตัวอย่างเกือบ 670,000 คนในแต่ละวัยและทุกสัญชาติมาทดสอบไวยากรณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กแล้วลองให้ทดสอบความถูกต้องในการเขียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีบุคคลอีกกลุ่มที่ไม่ได้ใช้เฉพาะภาษาอังกฤษเพียงภาษาเดียวแต่ใช้ 2 ภาษาหรือหลายภาษา รวมทั้งภาษาพื้นเมืองที่พบมากที่สุด ได้แก่ ฟินแลนด์, ตุรกี, เยอรมัน, รัสเซียและฮังการี เป็นต้น
ผลวิจัยพบว่า คนส่วนใหญ่ที่ทำแบบทดสอบได้สมบูรณ์ในช่วงอายุ 20 ปีและ 30 ปี ส่วนอายุน้อยที่สุดคือประมาณ 10 ปี และที่มีอายุมากที่สุดคือ 70 ปี สรุปได้ว่า ช่วงวัยที่เหมาะแก่การในการเรียนรู้ไวยากรณ์ที่ดีที่สุดคือในวัยเด็ก ตามมาด้วยวัยรุ่น และจะลดลงเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เนื่องจากการเรียนรู้ภาษามักเป็นเรื่องง่ายสำหรับเด็กและทำให้ยากขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดสะทีเดียว ผู้ร่วมเขียนหนังสือ Josh Tenenbaum ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านสมองและวิทยาศาสตร์ด้านความรู้ความสามารถที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐฯกล่าวว่า "เป็นไปได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยทางสังคมหรือวัฒนธรรมเข้ามามีส่วนด้วย"
จึงสามารถสื่อสารได้ดี แม้ว่าคุณจะไม่ได้สำเนียงเหมือนเจ้าของภาษา หรือใช้ไวยากรณ์ได้ไม่ถูกต้องทั้งหมดตามหลักภาษาก็ตาม ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่าการเรียนรู้ภาษาอื่นในวัยผู้ใหญ่จะไร้ประโยชน์ เพราะการเรียนรู้ภาษาจะดีต่อสมองและยังทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมช้าอีกด้วย ซึ่งผลงานวิจัยยังพบว่า มีกรณีของคนในวัย 20 ปี สามารถเรียนรู้ภาษาใหม่ๆและยังสามารถเป็นถึงสายลับได้อีกด้วย ดังนั้นการศึกษาภาษาในวัยผู้ใหญ่