"ศิริกัญญา"ชี้นายกฯแก้เศรษฐกิจล้มเหลว

2025-03-25 19:10:19

"ศิริกัญญา"ชี้นายกฯแก้เศรษฐกิจล้มเหลว

Advertisement

 "ศิริกัญญา"ชี้นายกฯแก้เศรษฐกิจล้มเหลว ทำคนไทยคิดถึง "ลุงตู่"   ด้าน "พิชัย"   มั่นใจทำจีพีดีถึงเป้า เผยโครงการซื้อหนี้ประชาชน เน้นรายเล็กให้โอกาสได้กู้ใหม่

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 มี.ค.68 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณ เรื่องด่วนญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศย่ำแย่ แต่ความผิดที่ให้อภัยไม่ได้ในการบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด ล้มเหลว เพราะทำให้คนร้องหาและคิดถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี แบบนี้เรียกว่า “เสียของ” ที่ประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งที่ฉันทามติอยากได้รัฐบาลประชาธิปไตย ดังนั้นให้อภัยไม่ได้ เพราะทำให้คนลืมภาพร้ายของรัฐประหาร และมีความคิดว่าสมัยพล.อ.ประยุทธ์ ยังดีกว่านี้ ขณะนี้ประชาชนเผชิญกับภาวะค่าครองชีพสูง สินค้าขึ้นราคา ค่าไฟฟ้าที่ราคาสูง ส่วนที่บอกว่าจะลดราคาไฟฟ้าเป็นแค่ราคาคุยเท่านั้น ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรมีราคาตกต่ำ รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำ รายได้แรงงานไม่เติบโต ส่วนที่บอกว่าจะขึ้นค่าแรง 400 บาท ปี2567 ไม่สามารถทำได้จริง ทั้งที่มีอำนาจเต็มมือ ถือเป็นการโกหก หลอกลวงเพื่อหวังคะแนนเสียง

“เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีพบว่ามีบริษัทปิดกิจการ ร้อยละ 11 และมีที่เปิดใหม่ ร้อยละ 4 ทำให้มีคนงานตกงานจำนวนมาก ขณะที่เอสเอ็มอีจมกองหนี้ ส่วนตลาดทุนมีสภาพตกต่ำ เป็นเพราะการบริหารที่ไม่ได้เรื่อง ทั้งนี้เดือนมี.ค.68 ตั้งเป้าให้จีดีพีโต ร้อยละ 3.5 ขณะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงใช้มาตรการเดิม ทำให้เป็นคำถามว่าจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร หากยังบริหารผิดพลาดซ้ำซาก ซึ่งไม่เห็นแผนภาพรวมของรัฐบาลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีแต่การขายผ้าเอาหน้ารอดเท่านั้น” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว


ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ชี้แจงต่อว่า ดูเหมือนทุกอย่างแย่ คนไม่อาจคาดหวัง สรุปแบบนั้นไม่ได้ต้องมีความหวังแม้จะยากลำบาก ตนเห็นด้วยที่เศรฐกิจไม่ดีมายาวนาน เพราะเติบโตแค่ ร้อยละ 1.9 มานาน อย่างไรก็ดีการตั้งตัวเลขจีดีพีไว้ ร้อยละ 3 เพราะคาดหวัง และเชื่อว่าจะเติบโตแม้จะช้า โดย 6 เดือนที่ผ่านมา เราโต ร้อยละ 3.1 ทำให้ต้องผลักดันไปให้ถึง











“การส่งออก ในสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ส่งออกจำนวนมากกว่าบริโภคในประเทศ ซึ่งการส่งออกข้าวบางพันธุ์เสมอกับต้นทุน ไม่มีกำไร ขณะนี้การผลิต 17 ล้านตัน บริโภคในประเทศ 11 ล้านตัน และส่งออก 6 ล้านตัน สิ่งที่ต้องทำคือ ลดการผลิตให้น้อยลง โดยใช้พื้นที่เพาะปลูกทำอย่างอื่น เช่น 14 ล้านไร่เพื่อปลูก อีก 12 ล้านไร่ต้องลดพื้นที่ปลูกข้าว ดีที่สุดคือสิ่งที่นำเข้าต้องผลิตเอง โดยดูต้นทุนการนำเข้า เช่น ข้าวโพด หากทำให้ดี จะได้ไร่ละ 15,000-16,000 บาท ซึ่งเป็นโครงกา 3-5 ปีที่ต้องดูแลให้หยุดปลูก” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวต่อว่า การลงทุนอุตสาหกรรม นับ 10 ล้านล้านบาท ในปีเดียวไม่ได้ ต้องพิจารณาว่าโครงสร้างเก่า เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีนโยบายรักษาแพลตฟอร์มเดิมและปรับเป็นไฮบริดจ์ ในรถกะบะเพื่อการขนส่ง นอกจากนั้นเรื่องการแก้ปัญหาค่าไฟแพงจำเป็นต้องปรับโครงสร้าง ส่วนการกระตุ้นเศรฐกิจด้วยการท่องเที่ยวยอมรับว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ต้องหาทางให้นักท่องเที่ยวอยู่ให้นานขึ้น ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวใปนประเทศไทยอยู่ที่ 35.5 ล้านคน ซึ่งพบว่ามีจำนวน 3 ล้านคนเข้ามาเพื่อสาธารณสุข

นายพิชัย กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนไม่อยากเรียกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องเติมเม็ดเงินเข้าไปในระบบ วันนี้หนี้ถึงระดับที่ทุกคนรับไม่ไหว การสเตเบิลคอยน์ต้องใช้ระวัง ทั้งนี้ตามกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง ไม่สามารถพิมพ์เงินใหม่เพื่อแข่งกับธปท. ได้ แต่ที่ต้องทำเพื่อให้มีสภาพคล่อง และเข้าถึงรายย่อยมากขึ้น ซึ่งจะเป็นจีโทเคน ไม่ใช่เงินใหม่ ซึ่งใครมีสามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนได้ หากเป็นแบบนี้ใครที่เงินฝาก 20,000 บาทสามารถซื้อธนบัตรรัฐบาลได้ ทั้งนี้ธปท.ยังไม่เห็นด้วย

นายพิชัย ชี้แจงด้วยว่า สำหรับการแก้หนี้ ปกติขั้นตอนทั่วไปต้องขอยืดหนี้ให้น้อยลง ยาวขึ้น ซึ่งทำได้เฉพาะคนที่มีกำลัง ทั้งนี้เป็นข้อเท็จจริงของการแก้หนี้ให้คนที่มีหนี้ไม่เยอะ เงินที่ช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ ใช้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง สำหรับหนี้ที่มี 13.6ล้านล้านบาท ไม่คิดว่าซื้อหนี้ทั้งระบบ เพราะไม่มีปัญญา ทั้งนี้ในจำนวนดังกล่าวมีหนี้ที่ไม่เสียปนอยู่ จำนวน 6 ล้านล้านบาท แต่จะเลือกซื้อหนี้เสียแล้ว แต่จะไม่เลือกกลุ่มที่ลูกหนี้กับเจ้าหนี้เจรจากัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ขนาดใหญ่ มีหลักทรัพยฺ ค้ำประกัน เราจะเลือกลูกหนี้ที่ไม่มีปัญญา ไม่มีหลักทรัพย์ กู้มากินและตามตัวไม่ได้

“หนี้ที่มีปัญหา คือ 3 ล้านคน มีหนี้ติดอยู่ 1.2แสนล้านบาท ด้วยเงินนิดเดียวทำให้คนมีความทุกข์ ซึ่งจะทำให้หาทางละเว้นเอ็นซีบี เฉพาะกลุ่มมีรหัสพิเศษ หากหลุดพ้นต้องหาทางกู้ใหม่ คือการให้โอกาส ส่วนจะได้กู้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ วันนี้ให้ธนาคารออมสินนำร่องโดยใช้เงิน 4,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยน้อยพบว่า เปิดได้ 3 วัน มีเข้ามา 4.5 แสนบัญชี หากควบคุมได้กำกับดีจะช่วยแก้ปัญหาตัวเล็กๆ ได้” นายพิชัย กล่าว