รอง ผบ.ตร.นำทีมบุกค้นตลาดใหม่ดอนเมือง ยึดผลิตภัณฑ์ไม่จดแจ้ง อย. จำนวนมาก
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมกำลังเจ้าหน้าตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 410 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ เข้าตรวจสอบสินค้าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมถึงสินค้าประเภทยาลดน้ำหนัก และอาหารเสริมในเครือเมจิกสกิน ในเขตพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะตลาดแอร์พอร์ต หรือ ตลาดใหม่ดอนเมือง ที่พบว่าเป็นตลาดส่งสินค้าขนาดใหญ่ และกระจายขนส่งไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังดูว่าสินค้าดังกล่าวมี อย. หรือไม่ และตรวสอบเครื่องสำอาง ว่ามีเลขจดแจ้ง อย.หรือไม่ โดยระหว่างการเข้าตรวจค้น แม่ค้าบางรายไหวตัวทัน ทำการปิดร้านหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอเข้าตรวจค้น โดยให้เปิดประตูเหล็ก เพื่อตรวจสอบ พบว่า มีสินค้า เช่น สบู่ ที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่มีการแสดงสลาก และเลข อย. ซึ่งทางร้านค้า อ้างว่า เป็นสบู่ที่ใช้สำหรับล้างมือเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
ส่วนจะมีข่าวรั่วก่อนเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการหรือไม่นั้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เนื่องจากบางร้านปิดกระทันหัน ขอยืนยันว่า เนื่องจากตำรวจมาก่อนเวลา หรือ ผู้ค้ารู้จึงไหวตัวปิดร้านทัน ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จไม่ได้ล้มเหลว หลังจากนี้จะยึดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไปตรวจสอบต่อไปว่ามีส่วนผสมที่มีสารอันตรายหรือไม่ และจะต้องเรียกผู้ค้าที่เปิดร้านและมีผลิตภัณฑ์เข้าสอบปากคำด้วย ส่วนร้านค้าที่ปิดทำการนั้นตำรวจได้มีการเก็บข้อมูลและจะนำหมายศาลเข้าขอตรวจค้นภายหลังอีกครั้ง
ด้านภก.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)กล่าวถึงกรณีที่มีผู้รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลีนเสียชีวิตว่า ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังไม่ถูกถอดถอนเลขทะเบียน อย. เนื่องจากจะต้องรอผลจากการตรวจสารในสถานที่ผลิตว่ามีสารต้องห้ามหรือไม่ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ในการตรวจขณะนี้กำลังเร่งทำเรื่องตรวจสอบอยู่ ซึ่งหากได้ผลที่เป็นทางการก็จะดำเนินการถอนถอนเลขทะเบียน อย.ได้ภายใน 1-2 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รอง ผบ.ตร. ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าสืบสวนสอบสวนบริเวณตลาดใหม่ดอนเมือง เพื่อให้เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาด มาแสดงตัวกับตำรวจ ว่าสินค้าที่ออกจำหน่ายนั้น ถูกต้องตาม อย. กำหนดหรือไม่ โดยศูนย์ดังกล่าวจะเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง หากตรวจสอบแล้ว พบว่าสินค้าที่จำหน่ายถูกต้อง ก็สามารถจำหน่ายต่อไปได้ แต่หากพบว่า ผิดกฎหมาย ก็จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวน และยึดของกลางทั้งหมด