"ศุภชัย" เป็นประธานลงนามความร่วมมือภาคีเครือข่ายไทย 30 ประเทศทั่วโลก เดินหน้าพัฒนาหลักสูตร เครือข่ายมวยไทยในต่างประเทศ พร้อมทำการตลาดยกระดับ SOFT POWER มวยไทยสู่สากล
เมื่อวันที่ 15 มี.ค.68 นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่างประเทศ ในการพัฒนาหลักสูตรและเครือข่ายมวยไทยในต่างประเทศ การทำการตลาดมวยไทย และยกระดับ SOFT POWER มวยไทยสู่สากล โดยการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ภายใต้ “โครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวศิลปะการต่อสู้ มวยไทยแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณค่าสูงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์” โดยมี ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สกสว. รศ.ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล รักษาการรองผู้อำนวยการกลุ่มงานด้านกลยุทธ์วิจัย บพข. ดร.ชาญณรงค์ สุหงษา นายกสมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย หน่วยงานภาคีเครือข่าย และผู้แทนจาก 30 ประเทศ กว่า 150 คน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกษัตริย์ศึก 2 ชั้น 4 โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ ถนนพระรามที่ 6 กทม.
นายศุภชัย กล่าวว่า นี่เป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมมวยไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล เพิ่มสถานะของมวยไทยให้เป็น Soft Power ของประเทศไทย และการพัฒนาหลักสูตรมวยไทยสำหรับชาวต่างชาติ มวยไทยไม่เพียงแต่เป็นศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิม แต่ยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนภูมิปัญญาและจิตวิญญาณของคนไทย ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจและการยอมรับในระดับนานาชาติ การลงนามนี้ถือเป็นการสร้างกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพเพื่อขยายขอบเขตการเข้าถึงมวยไทย และเสริมสร้างบทบาทในฐานะ Soft Power ไทย ร่วมถึงการพัฒนาหลักสูตรมวยไทยที่เป็นมาตรฐานจะช่วยให้ชาวต่างชาติสามารถเรียนรู้กีฬานี้ได้อย่างถูกต้องและครอบคลุม
"ขอบคุณความมุ่งมั่นร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และองค์กรด้านกีฬาที่ต่างร่วมมือกันเพื่อเพิ่มการรับรู้มวยไทยในระดับโลก เสริมสร้างกลยุทธ์การตลาด และการจัดทำหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของมวยไทยและช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ให้แก่ประเทศไทยต่อไป” นายศุภชัย กล่าว