"ภูมิธรรม"จ่อควง "ทักษิณ" ลงจังหวัดชายแดนใต้ 23 ก.พ. ยอมรับปรับบรรจุยุทธศาสตร์ดับไฟใต้อาจล่าช้า รับฟังความเห็นจากทุกส่วน
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ว่า นายทักษิณ จะลงพื้นที่ในฐานะเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน โดยจะนำข้อมูลต่างๆที่ได้พูดคุยมาประกอบกับการลงพื้นที่ และตนในฐานะที่กำกับดูแลกองทัพภาคที่ 4 ตำรวจภูธรภาค 9 และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดน (ศอ.บต.)ก็จะไปร่วมรับฟังปัญหาด้วย ซึ่งหากมีประเด็นปัญหาก็จะได้นำมาดำเนินการ และส่วนตัวก็ไม่ได้มีอะไรที่ห่างไกลกับนายทักษิณสามารถพูดคุยกันได้ แต่ส่วนที่มีการนำเสนอว่าจะไปทำบุญที่อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นเรื่องส่วนตัวของ นายทักษิณ
เมื่อถามว่าจะนำข้อมูลการลงพื้นที่ครั้งนี้ไปประกอบ ในยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชายแดนภาคใต้ได้ดำเนินการมาถึงในระดับหนึ่งแล้ว รวมถึงในช่วง 2 วันที่ผ่านมาที่ได้ลงพื้นที่พูดคุยในประเด็นเหล่านี้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องใดบ้าง และได้มีการประชุมร่วมกับกองทัพภาค 4 มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงหลายระดับ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ดี และหลังจากนี้จะต้องมีการพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาในระดับกองพันขึ้นไป รวมไปถึงในระดับกองทัพภาค เพื่อนำแผนที่มีการปรับและทบทวนนำไปใช้ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และได้แจ้งไปว่าจะกลับมาที่พื้นที่อีกครั้งเพื่อพูดคุยกัน แต่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบไม่ให้มีพิธีกรรมมาก จะเป็นในลักษณะการสนทนาวงเล็ก เพื่อนำเรื่องต่างๆมาพูดคุยกัน ซึ่งตนได้ย้ำไปว่าไม่ได้ไปในฐานะผู้บังคับบัญชา แต่อยากไปในฐานะที่เป็นผู้ที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา
ต่อข้อถามว่าจากประสบการณ์ที่เคยผ่านเหตุการณ์ทางการเมือง มองอย่างไรหากมีการใช้นโยบาย 66/23 ในอดีต นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นการย้อนหลังไปถึง 50 ปี แต่ก็มองว่าหากเรื่องใดที่เคยใช้ได้ ก็ต้องนำมาพิจารณา ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ของชีวิต แต่ก็ต้องดูว่าสอดคล้องกับสภาพปัจจุบันหรือไม่ ส่วนใดที่เคยประสบความสำเร็จมากก็นำมาปรับใช้ แต่คงไม่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด
เมื่อถามถึงความคืบหน้าร่างยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ที่ถูกตีกลับไปยังสมช. เพื่อทบทวนนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ว ก็จะได้นำไปสู่หน่วยงานในพื้นที่ แต่ยอมรับว่า อาจจะช้าไปบ้าง แต่เพื่อที่จะเปิดรับฟังจากทุกภาคส่วน เพื่อช่วยทำให้การทำงานในพื้นที่แม่นยำมากขึ้น.