พีอาร์สาวเมาหลับกลับแท็กซี่ เจอลวนลามลักทรัพย์

2018-04-29 15:00:07

พีอาร์สาวเมาหลับกลับแท็กซี่ เจอลวนลามลักทรัพย์

Advertisement

พีอาร์สาวแจ้งความแท็กซี่ เผลอหลับถูกลวนลามลักทรัพย์



เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่สน.คันนายาว น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร.ต.อ.วิทธวัช สาคะรินทร์ รอง สว.(สอบสวน)สน.คันนายาว เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานภายหลังถูกโชเฟอร์แท็กซี่ลวนลามและลักทรัพย์ขณะเผลอหลับหลังเรียกใช้บริการเพื่อไปส่งยังบ้านพัก




น.ส.เอ กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพเป็นพีอาร์ภายในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งตั้งอยู่ซอยทองหล่อ 10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. โดยปกติหลังจากเลิกงานจะเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ที่จอดให้บริการลูกค้าหน้าร้านเพื่อกลับบ้านพักอยู่เป็นประจำ ซึ่งก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 28 เม.ย. ตนโดยสารแท็กซี่ ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียนเพื่อให้ไปส่งบ้านพักย่านรัชดาภิเษก-ห้วยขวาง โดยระหว่างการเดินทางตนนั่งอยู่เบาะหลังฝั่งซ้ายมือและมีอาการมึนเมาจึงเผลอหลับไป





จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.45 น. ตนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนพบว่าโชว์เฟอร์ได้จอดรถข้างทางอยู่บนทางพิเศษฉลองรัช ใกล้ทางออกถนนจตุโชติ ซึ่งย้ายมานั่งอยู่ด้านข้างช่วงเบาะหลังฝั่งขวาโดยใบหน้าซุกอยู่ที่บริเวณหน้าอกตนด้วยความตกใจจึงใช้มือผลักออกก่อนรีบเปิดประตูลงจากรถทันที จากนั้นทางโชเฟอร์ได้รีบขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า ขณะนั้นตนพยายามติดต่อเพื่อนเพื่อให้มารับพร้อมทั้งแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ระหว่างที่ยืนรออยู่นั้นกลับมีรถแท็กซี่อีกคันวิ่งผ่านมาจึงเรียกเพื่อให้ไปส่ง เมื่อมาถึงที่พักตนได้ตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าแหวนน้ำหนัก 1 สลึง ที่สวมอยู่ในนิ้ว พร้อมเงินสด 2 พันบาท ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างได้อันตรธานหายไปจึงคาดว่าถูกโชเฟอร์ลักทรัพย์ขณะเผลอหลับ





ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุตนใส่เสื้อเกาะอกสวมทับเสื้อคลุม และนุ่งกางเกงขายาว โดยไม่ได้แต่งตัวล่อแหลมแม้แต่อย่างใด นอกจากนี้โดยปกตินั้นเมื่อตนใช้บริการรถแท็กซี่จะถ่ายรูปข้อมูลโชเฟอร์ ทะเบียนรถ และเส้นทางที่วิ่งผ่านส่งให้เพื่อนดูอยู่เป็นประจำ แต่ในวันเกิดเหตุตนมีอาการมึนเมาก่อนเผลอหลับไปจนเป็นเหตุให้โชเฟอร์ขับรถออกนอกเส้นทางและก่อเหตุดังกล่าว



ด้านร.ต.อ.วิทธวัช เปิดเผยว่า ทางผู้เสียหายได้นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดขณะขึ้นรถคันเกิดเหตุมาส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อประกอบในสำนวนคดีโดยหลังจากนี้จะส่งตัวไปตรวจร่างกายที่รพ.ตร. พร้อมทั้งทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดต่อกับจราจรทางพิเศษฉลองรัชเพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายก่อนเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป