"ชัชวาล"ห่วง "กาสิโน" ไทยเสี่ยงเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งฟอกเงิน ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ พนันออนไลน์
เมื่อวันที่ 18 ม.ค.68 นายชัชวาล แพทยาไทย ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย คัดค้านโครงการเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ซ่อนบ่อนกาสิโน และการทำให้บ่อนการพนันถูกกฎหมาย โดยอ้างว่าจะช่วยปราบปรามบ่อนพนันใต้ดินว่า การเดินหน้าโครงการนี้สุ่มเสี่ยงต่อการทำลายสังคมไทยและอนาคตของเด็กเยาวชน เราห่วงใยการเปิดบ่อนกาสิโน และการทำให้บ่อนพนันกลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย การอ้างว่าจะช่วยลดปัญหาบ่อนใต้ดิน จะสร้างผลกระทบที่ได้แบบไม่คุ้มเสีย แม้รัฐบาลจะอ้างว่าจะมีรายได้เข้ามามหาศาลจากโครงการ แต่ในความเป็นจริงจะสร้างปัญหาทางสังคม เช่น การติดการพนันและปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน
นายชัชวาล เตือนถึงความเสี่ยงที่ประเทศไทย จะกลายเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การฟอกเงิน ค้ายาเสพติด พนันออนไลน์ และการค้ามนุษย์ เหมือนที่เกิดขึ้นกับ ซิง ซิง ดาราชาวจีน ที่หายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาใน อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งไปพบตัวในสภาพศีรษะถูกโกนศรีษะ และสวมเสื้อผ้าสีขาวที่เมืองสแกมเมอร์ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งทั้งหมดมีแนวโน้มว่าจะเกิดมากขึ้นในไทย ประเทศไทยอาจกลายเป็นฮับของอาชญากรรมข้ามชาติ หากเรายอมให้โครงการนี้เกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบในระยะยาวที่อาจทำลายอนาคตของบ้านเมือง
นายชัชวาล ยังกล่าวถึงปัญหาคอรัปชั่นในระบบราชการ ซึ่งหากรัฐบาลไม่จัดการให้ดี โครงการนี้อาจกลายเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต กระทบต่อประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะการตั้งซูเปอร์บอร์ดที่มีอำนาจเต็มมือในการตัดสินใจเรื่องรายได้ และหากร่างกฎหมายนี้ผ่านไป โอกาสที่เกิดการทุจริตจะเพิ่มมากขึ้น เพราะอำนาจที่มอบให้กับซุปเปอร์บอร์ดนั้น เปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้ง่าย ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย กังวลว่าโครงการนี้ ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย แต่กลับถูกเร่งรีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อสงสัยในเรื่องของผลประโยชน์จากกลุ่มทุน และการเมืองที่ร่วมมือกันหรือไม่
นายชัชวาล เชื่อว่าการพัฒนาศักยภาพของคนไทยและการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจควรเป็นแนวทางที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญมากกว่า การพัฒนาแหล่งรายได้จากการพนันและอาชญากรรม โดยรัฐบาลต้องเน้นการพัฒนาคนไทย ให้พร้อมรับเทคโนโลยียุคใหม่ และปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งรายได้จากกิจกรรมที่มีความเสี่ยงทางสังคม