ชาวเชียงใหม่รวมตัวหลายพันคนเดินขบวนเต็มถนนให้รื้อบ้านพักศาล
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นายบัณรส บัวคลี่ ภาคีคนฮักเจียงใหม่ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ มูลนิธิสืบสานล้านนา พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายรวมทั้งหมด 40 เครือข่าย มีครูแอ๊ด ภานุทัต อภิชนาธง และนางสุนทรี เวชานนท์ ศิลปินล้านนา รวมถึงประชาชนและนักท่องเที่ยว จำนวนหลายพันคนได้รวมตัวกัน เพื่อเดินขบวนชุมนุมการก่อสร้างบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค 5
โดยภายในกิจกรรมการชุมนุม ทางกลุ่มชมรมจักรยานได้ร่วมกันปั่นเพื่อเชิญชวนประชาชนโดยรอบคูเมืองเชียงใหม่ 1 รอบ และกลับมารวมตัวกันที่ลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ เพื่อทำกิจกรรมการชุมนุม นอกจากนี้ก็มีการแจกริบบิ้นสีเขียวให้กับผู้มาร่วมการชุมนุม มีการนำป้ายโปสเตอร์การคัดค้านบ้านพักมาจัดแสดงให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้ชม มีการแจกสติ๊กเกอร์ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จากนั้นนายธีระศักดิ์ ได้อ่านแถลงการณ์ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ฉบับที่ 1 ว่า ดอยสุเทพ เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ชัยมงคลสำคัญของเมืองเชียงใหม่ล้านนา ต่อเนื่องมาถึง 722 ปี เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่สมัยพญามังรายมหาราชเจ้า กษัตริย์ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง มีพิธีกรรมสักการบูชา สืบเนื่องต่อกันมา ดังนั้นพื้นที่ดอยสุเทพจึงเป็นสมบัติอันสูงค่าร่วมกันของชาวเมือง

ขนบจารีตที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี จากบรรพชน คนเชียงใหม่รุ่นสู่รุ่น จากปู่ทวดย่ายาย สู่ลูกหลานเหลน ความผูกพันดังกล่าวจึงลึกซึ้ง มีศักดิ์ และสิทธิ์เหนือกว่ากฎหมายใดๆ ที่เกิดขึ้นในชั้นหลัง ประชาชนคนเชียงใหม่ จึงผูกพันกับดอยสุเทพ.. ตื่นมาก็เห็น กลับถึงบ้านก็เห็น เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ชาวเชียงใหม่ ตลอดถึงชาวไทยทั้งปวง จึงมีสิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม ที่จะปกปัก ดูแลรักษา มิให้ดอยสุเทพ รวมถึงอาณาเขตป่าที่ประกอบขึ้นเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ถูกกระทำย่ำยี บีฑา ละเมิดทำลาย

โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” แม้จะอ้างว่าก่อสร้างในพื้นที่ราชพัสดุ แต่แท้จริงแล้วก็คือเขตป่าดอยสุเทพที่ต่อเนื่องเป็นผืนเดียว มีการถางทำลาย เปิดหน้าดิน ก่อความอัปลักษณ์ อุจาดนัยน์ตา ก่อให้เกิดอัปมงคลใหญ่ ระดับ “ขึดหลวง” ล่วงละเมิดสิทธิ์ของประชาชนชาวเมือง ละเมิดระบบนิเวศวัฒนธรรม อันเป็นสมบัติอันล้ำค่า ไม่มีแม้แต่ไต่ถาม ขอความเห็นใดๆ นับตั้งแต่เริ่มโครงการ จนใกล้แล้วเสร็จ เจตจำนงเรา ต้องการสิ่งเดียวเท่านั้น คือให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอุจาดอัปมงคล และคืนพื้นที่ป่า ให้ป่ากลับเป็นป่า ให้ดอยยังเป็นดอย เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลต้องตัดสินใจเร่งแก้ไขโดยด่วนทันที ให้มีการประกาศคำมั่นสัญญาจะคืนผืนป่าดอยสุเทพกลับคืน เครือข่ายประชาชนขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าในที่นี้ ขอประกาศยืนยันเจตนาอันแน่วแน่ ที่จะดูแลรักษาป้องกันมิให้ผู้ใดมาทำลายดอยสุเทพ ที่อันเป็นมิ่งขวัญและหลักชัยทางจิตวิญญาณของชาวเมืองสืบกันมาแต่ครั้งโบราณกาล ให้ยืนยงสืบไป เพราะนี่เป็นสิทธิอันชอบธรรมของพวกเรา เราขอประกาศว่า พวกเราจะยืนหยัดสู้ เพื่อรักษาเจตนานี้ โดยไม่ท้อถอย เราต้องการป่าดอยสุเทพที่สมบูรณ์ ไม่ต้องการป่าแหว่ง คืนป่าให้ดอยสุเทพ คืนป่าให้กับประชาชน เอาป่าดอยสุเทพคืนมา เอาป่าแหว่งคืนไป และร่วมกันชูมือเพื่อประกาศเป็นเสียงเดียวกันว่าให้รื้อบ้านพัก ไม่เอาป่าแหว่ง

หลังจากอ่านแถลงการณ์เสร็จแล้ว ก็ได้มีขบวนแบบล้านนา มีกังสดาล เพื่อบอกกล่าวกับเทพเทวาอารักษ์บ้าน อารักษ์เมือง อารักษ์เชียงใหม่ทั้งหมด ตามด้วยคณะสงฆ์จะมาร่วมแถลงขอบิณฑบาตขอคืนพื้นที่ป่า และตามด้วยคณะผู้อาวุโสที่ร่วมต่อสู้กับเรื่องดอยสุเทพมาหลายปี มีการถือเครื่องสักการะพร้อมกับถือธงเขียวมาด้วย มีกลองมองเซิง กลองสะบัดชัย ซึ่งจะเป็นริ้วขบวนสีเขียวทั้งขบวน และมีการแจกริบบิ้นสีเขียวทั้งสองข้างทางระหว่างที่ขบวนผ่าน ระหว่างที่ขบวนเคลื่อนไปนั้น ก็มีการตะโกนไปตลอดทางเป็นว่า "ให้รื้อ ให้ทุบ" จากนั้นขบวนจะไปสิ้นสุดที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ พร้อมถวายเครื่องสักการะและกล่าวคำปฏิญาณ ที่จะร่วมกันรักษาป่าดอยสุเทพ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนเชียงใหม่เอากลับคืนมาให้กับลูกหลานให้ได้ เอากลับคืนมาให้ประเทศ ให้เป็นประวัติศาสตร์ของคนเชียงใหม่ให้ได้

ต่อมาที่บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ครูแอ๊ด ภาณุทัต อภิชนาธง ศิลปินล้านนา ได้กล่าวโองการสาปแช่ง พร้อมวิงวอนเทพเทวา ผีอารักษ์ที่ปกปักษ์รักษาเมืองให้ออกมาช่วยเหลือและรักษาผืนป่าดอยสุเทพให้คงอยู่ต่อไป

หลังจากนั้นนายนิคม พุทธา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำปิง ได้ขึ้นกล่าวบทภาวนา ธรรมชาติบูชา ฮักษาป่าดอยสุเทพ โดยให้ผู้เข้าร่วมการชุมนุมได้พร้อมใจกันกล่าวบทภาวนาตาม ซึ่งมีใจความว่า การอนุรักษ์ป่าดอยสุเทพของเราในครั้งนี้ เรากระทำด้วยความสงบ อย่างมีสติ เพื่อสันติสุขในใจ เพื่อระลึกรู้บุญคุณ ของผืนดิน ป่าไม้และสายน้ำจากดอยสุเทพ ที่ช่วยหล่อเลี่ยงและเกื้อกูลชีวิตของเรา เราจะเปิดใจรับรู้ทุกข์สุขของสรรพชีวิต ด้วยความอ่อนโยน และน้อบน้อมต่อธรรมชาติ จากนี้ไปเบื้องหน้า ขอให้สรรพชีวิตจงเป็นสุข ปลอดพ้นจากภัยทั้งปวง ขอให้ทุกชีวิต เอื้อเฟื้อเกื้อกูลต่อกัน อยู่ร่วมกันอย่างบรรสานสอดคล้อง ด้วยเมตตาต่อกัน ขอให้บุญกุศล ที่เราพร้อมใจกันบำเพ็ยเพียรในวันนี้ จงเป็นพลวะปัจจัย ให้สันติสุขบังเกิดขึ้น ณ ดอยสุเทพ สายน้ำแม่ปิง และเมืองเชียงใหม่ ขอความบริสุทธิ์สดใส จงกลับคืนสู่ธรรมชาติดอยสุเทพอย่างยั่งยืนยาวนาตลอดไป แล้วทุกคนต่างเปล่งเสียง สาธุ โดยพร้อมเพรียงกัน

สุดท้ายนายธีระศักดิ์ แกนนำได้กล่าวนำว่า ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอป่าวประกาศ ปฏิญานตน ต่อองค์สามกษัตริย์ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ โดยมีพญามังรายเป็นเก๊า แลพระธาตุเจ้าดอยสุเทพ พระครูบาศรีวิชัยและอารักษ์ผู้ปกปักษ์ฮักษาเชียงใหม่ทุกตนทุกองค์ อันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนเจียงใหม่และคนทั้งหลาย ว่าข้าพเจ้าจะร่วมกัน ปกป้อง คุ้มครอง ดูแลรักษาเมืองเชียงใหม่ และดอยสุเทพอันเป็นสะหลีของเวียงพิงค์ เชียงใหม่หื้อคงอยู่งดงามสมบูรณ์ บ่หื้อไผ๋กระทำอันเป็นเหตุหื้อเสียหาย หื้อตกขึด อันเป็นอัปมงคล แก่บ้าน แก่เมือง และข้าพเจ้าทั้งหลาย จะฮักษา ดอยสุเทพแห่งนี้ไว้ หื้อเป็นสะหลีแก่เมืองเจียงใหม่เป็นขุนน้ำ แดนดอย เป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ เป็นลมหายใจ๋ ของเมืองเจียงใหม่ตลอดไปชั่วลูก ชั่วหลาน สิ้นกาลนานเทอญ

ต่อมาเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรม นายธีระศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เราจะให้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีรีบตัดสินใจไม่อย่างนั้นจะคาราคาซัง และให้คำตอบคนเชียงใหม่โดยเร็ว เรารออยู่ ขอวิงวอนและขอร้อง ท่านเห็นแล้วว่าคนเชียงใหม่ออกมาเต็มเมือง และจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เราก็ไม่อยากให้ปัญหาเรื้อรัง ภาพประชาชนวันนี้ผมหายเหนื่อยเลยที่รู้ว่าคนเชียงใหม่และคนที่มาจากทั่วประเทศออกมาร่วมกับเรา เพราะแนวทางที่เราทำสู้เพื่อขอทวงคืนผืนป่าเราทำถูกต้องแล้ว รู้สึกชื่นใจมา ถ้าคนเชียงใหม่ออกมาอย่างนี้เราก็ใกล้ถึงเส้นชัยแล้ว รับรองไม่มีแพ้ และการชุมนุมครั้งนี้ แม้ว่าจะมีประชาชนที่อยากจะมาร่วมแต่มาไม่ได้นั้น ก็ได้ช่วยกันแชร์โพสต์ว่า "ชุมนุมออนไลน์คู่ขนาน" ซึ่งเป็นการชุมนุมทางออนไลน์ด้วย โดยหนึ่งคนที่แชร์ ก็จะนับเป็นหนึ่งเสียง วันนี้คนมาที่นี่หลายพันคน และมีที่ชุมนุมผ่านออนไลน์ ดูผ่านออนไลน์อีกหลายหมื่นคน ซึ่งระยะเวลา 1 สัปดาห์ไม่น้อยเลย ถ้าจะตั้งคณะกรรมการอะไรก็ให้กำหนดแน่ชัด เพราะคนเชียงใหม่ไม่รอ ขอเถอะครับ เป็นนายกฯ ท่านต้องรีบตัดสินใจจะว่าอย่างไรก็ว่ามา ปัญหานี้จะลุกลามไป ขอให้รีบ หากไม่มีคำตอบที่เป็นแนวทางชัดเจน ก็จะมีการยกระดับในรอบที่ 3 และจะกลายเป็นสงคราม 9 ทัพและจะมีประชาชนชาวเชียงใหม่ออกมาเคลื่อนไหวมากกว่านี้แน่นอน