โฆษก รทสช.ไม่เห็นชอบแก้ข้อบังคับประชุมร่วมรัฐสภาของ ปชน. ลั่นสัดส่วน กมธ.แก้ รธน. ควรมาจาก ส.ส. ส.ว. ไม่ควรมีบุคคลภายนอก
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงมติการประชุม รทสช. ว่า ได้พิจารณา เรื่องข้อเสนอของพรรคประชาชน ที่ยื่นเสนอแก้ไขข้อบังคับการประชุมร่วมของรัฐสภา ซึ่งมีอยู่หนึ่งข้อที่พรรครวมไทยสร้างชาติมีมติไม่เห็นชอบคือข้อที่ 123 ที่เดิมทีการแก้รัฐธรรมนูญจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งในข้อบังคับกำหนดไว้ว่าไม่เกิน 45 คน ซึ่งมีสัดส่วนมาจาก ส.ส.และ ส.ว. แต่ที่พรรคประชาชนเสนอเข้ามาในข้อ 123/1 คือ เพิ่มบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นกรรมาธิการร่วมแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไม่เกิน 1 ใน 3 โดยมาจากประชาชนที่ลงชื่อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ พรรครวมไทยสร้างชาติจึงมีมติไม่เห็นด้วย เนื่องจากบุคคลที่จะมานั่งในกรรมาธิการควรเป็นสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ก็คือ สส.และ ส.ว. ไม่ควรมีบุคคลภายนอก ซึ่งรัฐธรรมนูญนั้นถือเป็นกฎหมายสำคัญ กฎหมายสูงสุดแตกต่างจากพระราชบัญญัติต่าง ๆ
นายอัครเดช ยังกล่าวว่า เวลา ส.ส. แก้กฎหมายหรือ ส.ว. พิจารณากฎหมายเมื่อมีความเห็นไม่ตรงกัน ก็กลับมาสู่การตั้งคณะกรรมาธิการร่วม เช่น พ.ร.บ.ประชามติ ที่มีการตั้งกรรมาธิการร่วมและไม่มีบุคคลภายนอกมานั่ง ยืนยันว่าการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกัน ต้องเป็นสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น บุคคลที่จะตั้งเข้ามาเป็นกรรมาธิการวิสามัญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญต้องเป็นสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นต่างจากพรรคประชาชน และวันนี้พรรค รทสช. จะมีมติไม่เห็นด้วยกับร่างข้อบังคับ การแก้ไขข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา
นายอัครเดช กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 15 ม.ค.นี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีการพิจารณา พ.ร.บ.สรรพสามิต ซึ่งพรรค รทสช. ได้ส่งเรื่องของสุรารวมไทยเข้าไป และในวันที่ 15 ม.ค.จะมีการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ทางวิปรัฐบาล ก็จะมีมติเห็นด้วยกับข้อสังเกตของทางกรรมาธิการ และจะส่งให้ สว.พิจารณาแก้ไขต่อ เพื่อเป็นการ ปฏิรูประบบ การจำหน่ายสุราของประเทศไทยเปิดโอกาสให้ พี่น้องเกษตรกรได้ผลิตสุราชุมชนได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ คาดว่าวันที่ 15 ม.ค.นี้ จะมีข่าวดีให้กับประชาชน