ลักซอร์, 9 ม.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (8 ม.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์รายงานการขุดพบครั้งสำคัญในพื้นที่ใกล้กับเมืองลักซอร์ ซึ่งรวมถึงซากวิหารที่มีความเชื่อมโยงกับฟาโรห์หญิงแฮตเชปซุต (Queen Hatshepsut)
ทีมนักโบราณคดี นำโดยซาฮี ฮาวาส ได้ขุดพบส่วนฐานสภาพดีของวิหารวัลเลย์ (Valley Temple) หรือวิหารหุบเขา ซึ่งทำหน้าที่เป็นทางเข้าหลักสู่วิหารฝังพระศพของฟาโรห์แฮตเชปซุต มีความเก่าแก่ที่สามารถสืบย้อนกลับถึงยุคราชวงศ์ที่ 18 (ราว 1539-1292 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
มีการค้นพบท่อนหินตกแต่งและเศษชิ้นส่วนที่ถูกแกะสลักและจารึกอย่างประณีตกว่า 1,000 ชิ้น ซึ่งถือเป็นตัวอย่างผลงานประติมากรรมหายากจากยุคฟาโรห์แฮตเชปซุตและยุคฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 ผู้สืบทอดราชบัลลังก์ในเวลาต่อมา
กระทรวงฯ ระบุว่าจารึกเหล่านี้มีความสมบูรณ์มากที่สุดที่ขุดพบจากวิหารวัลเลย์ ซึ่งถูกทำลายอย่างจงใจในยุคฟาโรห์รามเลส (ราว 1292-1077 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
นอกจากนั้นมีการค้นพบแผ่นหินปูนและหินควอดไซต์มากกว่า 100 แผ่น ซึ่งถูกประทับตราคาร์ทูชหรือตราราชวงศ์ของฟาโรห์แฮตเชปซุต โดยแผ่นหินเหล่านี้ กอปรกับซากฐานรากอื่นๆ ช่วยยืนยันความเป็นเจ้าของวิหารวัลเลย์ของฟาโรห์แฮตเชปซุต
ทีมนักโบราณคดียังขุดพบสุสานหินและโบราณวัตถุจากยุคอาณาจักรกลาง (ราว 1938-1630 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งรวมถึงสุสาน “ผู้ดูแลพระราชวัง” ของราชินีเตติเชรี (Queen Tetisheri) จากยุคราชวงศ์ที่ 17 (ราว 1630-1540 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
ขณะเดียวกันมีการค้นพบหลุมศพจากยุคอาณาจักรกลาง สุสานขนาดใหญ่ และเหรียญสัมฤทธิ์จากยุคปโตเลมี (ยุคราชวงศ์สุดท้ายของอียิปต์โบราณ) อีกด้วย
(แฟ้มภาพซินหัว : โบราณวัตถุที่ค้นพบระหว่างการขุดสำรวจทางโบราณคดีในเมืองลักซอร์ของอียิปต์ วันที่ 8 ม.ค. 2025)