ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกรัฐบาล ก.พ.

2025-01-07 14:43:27

ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกรัฐบาล ก.พ.

Advertisement

 
"ปกรณ์วุฒิ"เผยฝ่ายค้านยื่นซักฟอกรัฐบาล ก.พ.  จองกฐินทุกพรรค เรื่องชั้น 14 มีแน่นอน  

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า อยู่ในกรอบที่จะยื่นช่วงเดือนก.พ. ส่วนการอภิปรายที่จะเกิดขึ้นจริงหลังการยื่นต้องไปเจรจากับวิปร่วม เพื่อกำหนดวันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ล็อควันที่จะมาชี้แจง ซึ่งกรอบกว้างๆน่าจะอยู่ที่ราวปลายก.พ. ต้นมี.ค. หรืออาจจะขยับไปสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน มี.ค.โดยจะไม่ช้าไปกว่านั้น ส่วนประเด็นในการอภิปรายจะะมีหลายเรื่องทั้งระดับนโยบายหรือการบริหารราชการที่ล้มเหลว รวมไปถึงกรณีต่อการทุจริตคอร์รัปชัน อาทิ การเอื้อกลุ่มทุนผูกขาด การเอื้อตัวบุคคลบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เรื่องนโยบายที่ล้มเหลวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ซึ่งทุกเรื่องก็ตรวจสอบต่อเนื่องตลอดเวลาให้ได้เห็นอยู่แล้ว แต่อาจมีบางเรื่องที่ยังไม่เคยพูดและมีข้อมูลที่ได้มาจากทางหลังบ้าน ที่จะเห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบนี้เมื่อถามถึง ไม้เด็ดในการอภิปรายที่จะน็อครัฐบาลได้

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ทุกครั้งก็จะมีเรื่องที่สื่อให้ความสนใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล มาจนถึงพรรคประชาชน จะมีไม้เด็ดที่ไม่เปิดเผยก่อน บางครั้งก็ไม่ได้เปิดเผยกับคนในพรรคเสียด้วยซ้ำ มีเซอร์ไพรส์บางเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ ยังไม่เคยมีใครรับรู้มาก่อน ซึ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงเช็คความถูกต้องของข้อมูล ถ้าเป็นเรื่องจริงและมั่นใจว่าเป็นข้อมูลจริง ก็จะได้เห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ยอมรับว่าตนผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาถึง 4 ครั้ง การเป็นเสียงส่วนน้อยกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงจะหวังได้ยากที่การลงมติจะทำให้น็อครัฐมนตรีได้ แต่ก็ไม่แน่เพราะพรรครัฐบาลนั้นง่อนแง่นกันอยู่ หากสมมติมีใครเปลี่ยนข้างขึ้นมาแล้วไปโหวตส่วนในญัตติอภิปราย ก็ไม่แน่เหมือนกัน แต่ทุกครั้งการน็อคกลางสภาฯของการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะโดยสภาวะไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลเป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง และสถานการณ์ความร้าวฉานของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก แต่สิ่งที่เราต้องการจริงๆ คือหวังว่าจะมีการโหวตไปตามเหตุผลและข้อมูล แต่ถ้าไม่ได้สิ่งที่เราหวังจริงๆคือให้ข้อมูลกับประชาชนรับทราบว่ารัฐบาลที่ทำงานอยู่มีข้อบกพร่องหรือข้อทุจริตใดๆที่ปกปิดเอาไว้บ้าง และทำให้สังคมหันมาสนใจการเมือง และสนใจการใช้อำนาจตรวจสอบอำนาจบริหารของสภาฯ เป็นเรื่องที่สำคัญ

เมื่อถามว่า มีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ที่จะซักฟอกนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ 3-4 เดือน และเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สังคมจับตาว่าพรรคประชาชนจะหยิบยกมาอภิปรายในครั้งนี้ด้วย และอาจถูกดักทางว่าเป็นคนนอกไม่เกี่ยวข้องนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจจะอภิปรายเป็นรายบุคคลจะมีทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ และขอย้ำอีกรอบว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา แต่เป็นรัฐบาลที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีกว่าๆ หน้าตาเหมือนเดิม เปลี่ยนขยับนิดหน่อยแค่เพียงพรรคเดียว ดังนั้น 1 ปีกว่าควรต้องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีผลงานอะไรที่เป็นรูปธรรม ข้ออ้างที่ว่าเพิ่งมาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่กี่เดือน ไม่ใช่เป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผล

"กรณีของนายทักษิณจะมีหรือไม่นั้น คงไม่ใช่เป็นเรื่องของนายทักษิณโดยตรง อาจจะมีเรื่องพฤติกรรมของฝ่ายบริหารที่บิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เพื่อเอื้อให้บุคคลบางกลุ่ม ซึ่งคนทั้งประเทศก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ประชาชนมองว่าพรรคฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลไม่เข้มข้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่กังวล และไม่คิดว่าเราตรวจสอบไม่เข้มข้น หลายเรื่องที่ได้ฟังในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องที่เคยฟังมาโดยตลอด ถ้าไปถึงตอนนั้นแล้วบอกว่าตรวจสอบไม่เข้มข้น พูดเรื่องเดิมๆ ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าเราได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้นเต็มที่ตลอดเวลาเหมือนกัน ดังนั้นไม่กังวล เชื่อมั่นและมั่นใจว่าเราทำงานตรวจสอบเต็มที่ตลอด อย่างเรื่องชั้น 14 เราอภิปรายไปตั้งแต่การอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 รอบแรกก็โดนประท้วงหนัก นายจากนั้นนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ก็ได้นำเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จนเป็นข่าวและเกิดความขัดแย้งกันในกรรมาธิการ บรรยากาศดุเดือดพอสมควร จึงยืนยันได้ว่าทำงานเต็มที่ ไม่เคยออมมือใดๆทั้งสิ้นและการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่าเราทำการตรวจสอบเข้มข้นแน่นอน ยืนยันว่าเราเป็นฝ่ายค้านที่ทำงานอยู่บนหลักเหตุผล เราอาจจะเห็นด้วยกับหลายเรื่องที่รัฐบาลเสนอมา รวมถึงร่างกฎหมายที่รัฐบาลส่งมาก็มีร่างของพรรคประชาชนที่เสนออยู่แล้ว จึงเห็นด้วยเพราะเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคประชาชน ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปคัดค้านเสียทุกเรื่อง เรื่องไหนไม่ถูกต้องตรวจสอบเต็มที่ ต่อข้ถามว่า  เปิดเผยได้หรือไม่ว่าจะมีรัฐมนตรีที่ถูกล็อกเป้าอภิปรายเกิน 10 คนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจ แต่น่าจะเกือบครบทุกพรรคร่วมรัฐบาลแน่ๆ แต่จะมีบางพรรคที่เพิ่งเข้าร่วม ยังไม่แน่ใจ ต้องรอดู และย้ำว่าเรื่องชั้น 14 มีแน่นอน