ควงคู่กันออกงานแล้วสำหรับคู่ของ หนุ่มก๊อต -จิรายุ ตันตระกูล และ สาวโบว์ – เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์ งานนีัหลายคนจับตามองหลังทั้งคู่กลับมาดังกันอีกครั้ง พอเจอทั้งสองในงานยูนิโคล่เปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้าออกกำลังกาย ยูนิโคล่ แอคทีฟแวร์ ตอบโจทย์กิจกรรมแอคทีฟในทุกๆ วัน เลยขออัปเดตเรื่องความรักได้ความว่า
มาเดินแบบคู่กันเป็นยังไงบ้าง ?
ก็อต: รู้สึกดีครับที่ได้มากับเขาบ้าง นานมากแล้วครับที่ไม่ได้ออกงานด้วยกัน ล่าสุดที่ไปด้วยกันก็คืองานแต่ง ถามว่าเกร็งไหม ไม่เกร็งครับไม่มีอะไรต้องเกร็ง สบายๆ
โบว์: โอเคค่ะ พอได้มากับคนที่รู้จักเวลาทำงานก็สะดวกมากขึ้น
ขายงานแพ็คคู่เลยใช่ไหม ?
โบว์:ใช่ค่ะ
ก็อต:แพ็คคู่แต่ค่าตัวก็ไม่เยอะหรอกครับ ปกติเลย ไม่ได้คูณสอง
แล้วใครเก็บเงิน?
ก็อต:เราสองคนแบ่งกันครับ (ยิ้ม)
มีเขินไหมออกงานด้วยกัน ?
โบว์:ไม่นะ สนุกมากกว่าค่ะ เพราะเรารู้หน้าที่ของเราอยู่แล้วว่าเราควรทำอะไรเราก็เต็มที่กับงาน ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องเกร็งหรือเขินอะไร
ช่วงนี้ก็อตออกงานบ่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันไหม ?
โบว์:มีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยมากค่ะ แต่อย่างวันนี้พอได้ทำงานด้วยกัน ก็ทำให้มีเวลามากขึ้น อาจจะมีกินข้าวต่อ แต่สุดท้ายก็ต้องแยกกันอีก
เราเข้าใจเขาใช่ไหม?
โบว์: เข้าใจค่ะ แถมดีด้วยที่เขามีงานเยอะ เพราะดีกว่าไม่มี (หัวเราะ)
ก็อตฮอตขนาดนี้สาวๆ มาชอบเต็มเลย ?
โบว์: ก็เยอะค่ะ
ก็อต: ไม่มี มาพูดอะไรตรงนี้ล่ะ (หัวเราะ)
มีวิธีจัดการกับสาวๆ ที่เข้ามาช่วงนี้ยังไงบ้าง ?
โบว์:ปล่อยเขาค่ะ เพราะว่าเราอยู่ด้วยกันต้องไว้ใจกัน
ต้องลงภาพคู่ถี่ๆไหม?
โบว์:ไม่นะคะ คือ ปกติเราก็ลงเรื่อยๆ ของเราอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้เขามีชื่อเสียงแล้วเราต้องแสดงความเป็นเจ้าของ เราทำของเราเป็นปกติอยู่แล้วในการลงรูป ไม่ใช่ทำมากขึ้นหรือน้อยลงค่ะ
แต่คนมองว่าเราลงคลิปลงรูปเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ?
โบว์: เฉยๆ เพราะเรารู้อยู่แล้ว เราอยู่ด้วยกันมานาน ถ้าเพิ่งจะมาแสดงความเป็นเจ้าของเอาตอนนี้มันก็ไม่ใช่ค่ะ
โบว์มั่นใจว่าก็อตรักเราคนเดียวใช่ไหม ?
โบว์: รักเปล่า
ก็อต: รักสิ
ก็อตแสดงความเชื่อมั่นให้โบว์เห็นยังไง ?
ก็อต: ผมไม่ได้ยุ่งกับใครอยู่แล้วครับ เพราะแค่คนเดียวก็ปวดหัวแล้ว (หัวเราะ) ล้อเล่น คือเรารู้ว่าอะไรจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนเป็นแฟนกันทะเลาะกันเราก็จะหลีกหนีเรื่องเหล่านั้น และมันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้น คนที่ดีก็ยืนอยู่ตรงนี้
มีคนไดเรกต์มาบ้างไหม ?
ก็อต: ไม่มี ถึงไดเรกต์มาก็ไม่ตอบ อีกอย่างคนได้เรกต์มาแบบเถื่อนๆ ก็มี ซึ่งผมก็ไม่ตอบเหมือนกัน เพราะนิ่งทุกอย่างคือจบ อย่างบางทีก็มีคอมเมนต์มาแรงๆ หรือดีมากๆ ก็มี แต่เราก็เลือกดูว่าสิ่งไหนโอเคเราก็รับไว้ ส่วนอันไหนที่ไม่ดีเราก็ไม่ตอบกลับเพราะมันไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้นจริงๆ เราเข้าใจว่าพอเราอยู่ในกระแสมันก็จะเป็นปกติที่มีคนเข้ามา
โบว์เคยเช็กข้อความของก็อตบ้างเปล่า ?
โบว์:ไม่เช็กค่ะ เพราะโบว์มองว่าเรื่องการไว้ใจกันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งเราทำอาชีพตรงนี้ การที่เขาต้องเข้าฉากกับใคร หรือเข้ากองเจอผู้หญิงเยอะ ถ้าเราไม่มีความไว้ใจให้กัน เราก็จะไม่สบายใจ ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าโบว์ไปทำงานและเขาไม่ไว้ใจโบว์ เขาก็คงไม่สบายใจ หรือถ้าเขากำลังทำงานและส่งข้อความไปนอยด์ ทำนองว่าทำอะไร หรืออยู่ไหน ให้เขารายงานตัว แบบนั้นมันก็ไม่มีความสุขหรอกค่ะ
ก็อตมีถ่ายรูปส่งให้เราดูว่าเขาอยู่ตรงนี้บ้างหรือเปล่า?
โบว์: ไม่มีค่ะ เราอาจจะชินกับการอยู่แบบนี้ เขาทำอะไรเราไม่เคยถาม ไม่เคยเช็ค ถ้าอยากเล่าเดี๋ยวเขาก็เล่าให้ฟังเอง เราใช้ชีวิตกันเหมือนเพื่อน เพื่อนเขาก็ไม่เช็คกันอยู่แล้ว ว่าแกอยู่ไหน อยู่กับใคร ทำอะไร ทำไมไม่ชวน โบว์จะไม่เป็นแบบนั้น เราอยู่กันแบบเพื่อนสนิท ไว้ใจและให้กำลังใจกัน
ก็อต: ถ้าคอยโทรตามโทรเช็ก เราคงไม่ได้คบกันจนถึงตอนนี้ก็ได้ เราเองก็รู้ ตัวเราดีว่าไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเวลาที่เราทำงาน ผมก็ไม่เคยก้าวก่ายเวลาของเขา แต่เวลาเราอยู่ด้วยกันสองคน เราแฮปปี้ที่ได้อยู่ด้วยกัน
มีไลฟ์คุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย?
ก็อต: ผมเห็นว่าวิธีการใช้เงินของผมที่ผ่านมาในอดีตทำให้ผมจนลง แล้วพอดีผมไปเจอวิธีบริหารเงินที่ทำให้ผมสามารถใช้จ่ายได้ดีขึ้น ช่วยพ่อแม่ ให้แฟน พาคนที่เรารักไปเที่ยว ทำให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้น เลยแค่อยากจะแบ่งปันวิธี จริงๆทุกคนถ้าบริหารเงินเป็น เราจะรวยขึ้นในไม่กี่ปีเลยนะ
โบว์: วิธีที่เขาแนะนำโบว์เองก็ได้เอาไปปรับใช้ ทำให้มีเงินเก็บมากกว่าเดิมเยอะมาก เพราะเหมือนเราฉลาดในการใช้เงินมากขึ้น
เริ่มวางแผนอนาคตร่วมกัน?
ก็อต: การบริหารเรื่องเงิน ถ้าไม่รู้จักบริหาร อนาคตเราก็เจ๊ง แล้วเราจะมีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่บริหารมันนอกจากคำว่าขี้เกียจ
คุยถึงเรื่องแต่งงานกันไว้ยังไงบ้าง?
ก็อต: ไม่เลยครับ มีแต่แพลนการไปเที่ยว(หัวเราะ) การเที่ยวคือสุขสมอารมณ์หมาย คือ ณ วันนี้ผมไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น เพราะเราแฮปปี้ที่เราอยู่กันตรงนี้ แต่ในวันข้างหน้า ผมก็ไม่รู้อารมณ์ ความคิดของผมจะเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหน เรายังเดาไม่ออกเลยว่าเมื่อเช้าฝนจะตก แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
โบว์: สำหรับโบว์เฉยๆค่ะ เราได้คุยเรื่องตรงนี้กันตั้งแต่แรกๆ แล้วว่าสำคัญไหมที่จะต้องแต่งงาน ตัวโบว์เองไม่ได้ให้ความสำคัญขนาดนั้นด้วย อย่างที่ก็อตบอกเราอยู่กับปัจจุบัน ใช้ชีวิต ณ ตอนนี้ให้ดีที่สุด อนาคตจะเป็นยังไงค่อยว่ากัน เราอยู่กับปัจจุบันตอนนี้ทำให้มันดีที่สุดก่อน เราแฮปปี้กับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้
เวลาไปงานแต่งงานมีโมเมนต์อยากแต่งงานไหม?
โบว์: ยังนะ ยังไม่พร้อมด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง ตอนนี้เราแฮปปี้กับหลายๆอย่าง ไม่จำเป็นต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะนำความสุขเข้ามาหาเราเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้ว เราได้คุยกับพ่อแม่เราแล้ว ครอบครัวเมื่อก่อนเคยมีถามๆ แต่ตอนนี้ปล่อยให้เป็นเรื่องของเรา เขาค่อนข้างมั่นใจในการตัดสินใจของเรา เขาคิดว่าถ้าเรามีความสุข เขาก็มีความสุข ไม่ว่าเราจะตัดสินใจยังไงก็แล้วแต่เรา เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องของการมีลูก สมัยนี้มีอะไรให้ทำเยอะมาก ถ้าไม่มีจริงๆมันก็มีหนทางของมัน
ก็อต: ผมชอบเด็กนะครับ แต่ผมไม่อยากมีลูก ผมรักเด็กมากๆ ชอบอยู่กับเด็ก สามารถอยู่กับเด็กได้ทั้งวัน แต่ที่ผมไม่อยากมีลูก เพราะตัวผมเองยังสอนตัวเองไม่ได้ เลยไม่อยากผลิตใครออกมา ณ ตอนนี้ แต่ก็มีโอาสเปลี่ยนใจนะครับ ถ้าวันหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ดีพร้อม และสามารถถ่ายทอดเรื่องราวดีๆไปสู่ชีวิตคนคนหนึ่งได้ ผมถึงจะตัดสินใจมีลูก
