แต่งตั้ง "โค้ชเช" ที่ปรึกษาประธานสภา กทม. เตรียมผลักดันหลักสูตรเทควันโดสำหรับเด็กและเยาวชน
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 67 ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นายสุรจิตต์ พงษ์สิงวิทยา (ดร.จอห์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาเทควันโดในระดับเยาวชนของกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ ผอ.สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว นายชัชชัย เช หรือ "โค้ชเช" หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย น.ส.ชนาธิป ซ้อนขำ ผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ผู้แทนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหารือและร่วมผลักดันกีฬาเทควันโดสำหรับเด็ก เยาวชน และบุคลากรทางการกีฬาในกรุงเทพมหานคร พร้อมประกาศแต่งตั้ง "โค้ชเช" เป็นที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานคร
ในที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการเปิดสอนหลักสูตรกีฬาเทควันโดสำหรับเด็กและเยาวชนในกรุงเทพมหานคร และหลักสูตรสำหรับผู้ฝึกสอนให้กับบุคลากรทางการกีฬาในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้ฝึกสอนสามารถพัฒนาศักยภาพ เพิ่มทักษะ พร้อมนำเทคนิคการสอนและการฝึกซ้อมใหม่ ๆ มาพัฒนาศักยภาพของเยาวชนได้อีกด้วย และ ทั้งนี้ สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย จะเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียน พร้อมสนับสนุนวิทยากรตลอดหลักสูตรการฝึกอบรม
"การส่งเสริมกีฬาเทควันโดในกลุ่มเด็กและเยาวชนไม่เพียงแต่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาทักษะทางกายภาพและจิตใจของเยาวชนเท่านั้น แต่ยังสร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังจิตสำนึกในการมีวินัยและเคารพในตนเองและผู้อื่นอีกด้วย โดยมีแผนดำเนินงานภายใต้การดูแลของโค้ชเช ในฐานะที่ปรึกษาของประธานสภากรุงเทพมหานคร โดยโค้ชเชจะเป็นผู้วางหลักสูตรการเรียนการสอนร่วมกับสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้การเรียนการสอนเทควันโดเป็นไปในทางที่เหมาะสมที่สุด"ดร.จอห์น กล่าว
ด้าน โค้ชเช กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ประธานสภากรุงเทพมหานคร ให้เกียรติและเห็นถึงความสามารถและศักยภาพด้านกีฬาของตน นับเป็นโอกาสดีที่จะสามารถสร้างและเผยแพร่ค่านิยมของเทควันโดในระดับเยาวชน ซึ่งจะช่วยให้เยาวชนได้พัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ เชื่อว่ากีฬาเทควันโดสามารถเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและการศึกษาของเด็ก ๆ ได้
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครพร้อมผลักดันศิลปะมวยไทยไปแสดง ในศึกเวิล์ด เทควันโด กรังปรีซ์ ชาเลนจ์ 2 ในเดือน พ.ย.68 ซึ่งประเทศไทยได้รับเลือกจากสหพันธ์เทควันโดโลกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยที่ไม่สามารถจับต้องได้ (soft power) สู่สายตาชาวโลกต่อไป