อธิบดี ปภ.เตือน 9 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง คลื่นลมแรง 12 - 16 ธ.ค.
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.67 นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และตรัง เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 12 – 16 ธ.ค. 67 พร้อมจัดทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ ให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อลดผลกระทบจาก เหตุอุทกภัยให้ได้มากที่สุด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 12 - 16 ธ.ค.2567 แยกเป็น พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่
1.จ.ชุมพร 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองชุมพร อ.ละแม อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน และ อ.พะโต๊ะ
2.จ.สุราษฎร์ธานี 11 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.บ้านนาเดิม อ.กาญจนดิษฐ์ อ.บ้านนาสาร อ.เวียงสระ อ.พุนพิน อ.เคียนซา อ.พระแสง อ.ดอนสัก อ.เกาะพะงัน และ อ.เกาะสมุย
3.จ.นครศรีธรรมราช 13 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.พระพรหม อ.ถ้ำพรรณรา อ.ช้างกลาง อ.จุฬาภรณ์ อ.ขนอม อ.สิชล อ.นบพิตำ อ.พิปูน อ.ท่าศาลา อ.พรหมคีรี อ.ลานสกา และ อ.ชะอวด
4.จ.พัทลุง 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ป่าบอน อ.ศรีนครินทร์ และ อ.กงหรา
5.จ.สงขลา 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนเนียง อ.จะนะ อ.นาทวี อ.สะเดา และ อ.สะบ้าย้อย
6.จ.ปัตตานี 10 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปัตตานี อ.ไม้แก่น อ.กะพ้อ อ.ยะรัง อ.สายบุรี อ.ยะหริ่ง อ.ทุ่งยางแดง อ.ปะนาเระ อ.หนองจิก และ อ.มายอ
7.จ.ยะลา 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองยะลา อ.กรงปินัง อ.ธารโต อ.บันนังสตา อ.ยะหา และอ.รามัน
8. จ.นราธิวาส 11 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนราธิวาส อ.บาเจาะ อ.ศรีสาคร อ.เจาะไอร้อง อ.ยี่งอ อ.ระแงะ อ.อรือเสาะ อ.จะแนะ อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี และ ตากใบอ.
9.จ.ตรัง 2 อำเภอ ได้แก่ อ.รัษฎา และ อ.ปะเหลียน
พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจ.สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ปัจจุบันมีระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับที่มีความเสี่ยง อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อน ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด
พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของคลองชุมพร คลองหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองท่าดี คลองชะอวด แม่น้ำตรัง คลองลำ คลองท่าแนะ คลองอู่ตะเภา แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง 6 จังหวัด ได้แก่ 1.จ.ชุมพร 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองชุมพร อ.ปะทิว อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน และ อ.ละแม 2. จ.สุราษฎร์ธานี 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.ท่าฉาง อ.พุนพิน อ.ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ อ.เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงัน 3. จ.นครศรีธรรมราช 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.ปากพนัง และ อ.หัวไทร 4.จ.สงขลา 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสงขลา อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร อ.จะนะ และ อ.เทพา 5.จ.ปัตตานี 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปัตตานี อ.หนองจิก อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี และอ.ไม้แก่น และ 6.จ.นราธิวาส 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนราธิวาส และอ.ตากใบ
นายภาสกร กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในระยะนี้ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ประกาศการแจ้งเตือนภัย สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถ ติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน "THA DISASTER ALERT" ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ ทั้งระบบ IOS และ Android และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป