โฆษกไทยสร้างไทยค้านขึ้น VAT หวั่นกระทบผู้มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง เชื่อสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นทันที ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว แนะทำการบ้านให้รอบคอบ หากจำเป็นต้องขึ้น ให้พิจารณาในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าในกลุ่มผู้มีรายได้สูงเท่านั้น
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.67 นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทยให้ความเห็นกรณี รัฐบาลเพื่อไทยมีแนวคิดการปรับขึ้น ภาษีมูลค่าเพิ่มจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ว่า สถานการณ์การหารายได้ เข้าคลัง ของรัฐบาล ที่มีแนวโน้มต่ำกว่าที่คาดการณ์ จึงเป็นที่มา ที่จะต้อง เพิ่มรายได้ อย่างเร่งด่วน ประกอบกับการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม มีการเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ที่ตัวเลข 10% ดังนั้น จึงเป็นเหมือนการโยนหินถามทางสำหรับการให้ความเห็นดังกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หากมีการปรับขึ้นของอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจริง กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางจะได้รับผลกระทบหนักมาก เพราะสินค้าอุปโภคบริโภคราคาจะปรับสูงขึ้นทันที ในขณะที่รายได้ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ดังนั้นตนจึงไม่เห็นด้วยที่จะมีแนวคิด ในการปรับขึ้น เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจตามมาอย่างแน่นอน รัฐบาลจำเป็นต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นภาษีต่างๆ ในรูปแบบอื่นๆ ตนมองว่าการนำเอาภาษีความมั่งคั่ง มาเป็นรายได้ของประเทศ เป็นวิธีการที่ตอบโจทย์ ในขณะเดียวกันหากต้องการปรับ VAT จริงๆ ตนคิดว่าควรปรับภาษีขึ้นเฉพาะในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย หรือสินค้าที่มีอัตราการใช้อัตราการบริโภคของกลุ่มผู้มีรายได้สูงเป็นหลัก เช่นกลุ่มสินค้านำเข้าที่เป็นสินคัาฟุ่มเฟือย ควรมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มสินค้าเหมือนกับในต่างประเทศ การแก้ไขปัญหารูปแบบนี้ จะได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องของการหารายได้เพิ่ม และไม่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำจนเกินไป รวมถึงอาจมีผลพลอยได้ ให้คนในประเทศหันมาใช้สินค้าผลิตในประเทศมากขึ้น แต่รัฐบาลจำเป็นต้องฟังความเห็นอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs และผู้บริโภคที่จะได้รับผลกระทบในเรื่องนี้จากนโยบาย ดังนั้นรัฐบาลควรทำการบ้านตรงนี้มากกว่าการให้รัฐมนตรีมาแบกหน้าลุยไฟคนเดียว