นายกฯ ยันยังไม่งัดคำสั่งม.44 มาช่วยอุ้มทีวีดิจิทัล ขณะที่ คสช.เตรียมใช้ ม.44 ให้ผู้ประกอบการพักชำระหนี้ 3 งวด
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการหารือมาตรการแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลว่า ได้มีการหารือกันถึงการหามาตรการที่เหมาะสมออกมาดูแลผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัล แต่ยังไม่มีการออกคำสั่งตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 โดยจะเร่งพิจารณาเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องพิจารณาจากบริบทที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความเดือดร้อน ความพร้อมหรือไม่พร้อมของระบบ โดยยืนยันว่าประเทศต้องไม่เสียผลประโยชน์ ทุกอย่างต้องมีทางแก้ไข นายกฯ กล่าวอีกว่ารัฐบาลจะหาทางออกที่ดีที่สุดและ มีการหารายละเอียดให้มากขึ้น
“เขาลงทุนของเขา สมัครใจกันมาร่วมประมูล ยกตัวอย่างง่ายว่าเหมือนกับมีเค้กอยู่ก้อนเดียว แต่มีคนกินเค้ก 20-30 คน แล้วจะมีเค้กให้พอกินกันหรือไม่ ในเมื่อแหล่งสปอนเซอร์มีอยู่เท่าเดิม วันนี้มันตกไปทั้งหมด มีเรื่องค่าใช้จ่าย โครงสร้าง การใช้โครงข่ายความถี่ ตกหมด ไม่มีคนจ่าย จ่ายเงินไม่ได้ และอีกหน่อยช่องทีวีก็จะจอดำมืดแล้วจะให้ทำอย่างไร นี่คือเป็นสิ่งที่รัฐบาลเข้ามาแก้ แต่ถ้าไม่แก้ หรือถ้าบอกว่าอันนี้ทำไม่ได้ อันนั้นก็ทำไม่ได้ เราก็เห็นใจภาคธุรกิจ แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามความสมัครใจของเขาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อมีปัญหา รัฐบาลก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสม ไว้ใจกันหน่อยนะ เราต้องดูเหตุผลและความจำเป็น ดูว่ามีความเสียหายอะไรตรงไหนแล้วแก้ไข เราเรียกทีวี 20 กว่าช่องมาประชุม เรียกกสทช. กำลังหามาตรการมาแก้ไขให้ดีที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม คสช. ว่า ในการประชุมได้นำผลการเรื่องแนวทางช่วยเหลือทีวีดิจิทัลมาพูดคุย โดยปัญหาที่ผู้ประกอบการรู้สึกว่าประสบมี 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1.การแข่งขันสูงมากราคาสูงบผิดปกติ 2.ปัจจุบันพฤติกรรมของคนหันไปบริโภคในช่องทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น การหาโฆษณามาสนับสนุนจึงทำได้ยาก และ 3.ก่อนการประมูลคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดรายละเอียดการปฏิบัติหลายประการ ซึ่งหลายเรื่องกสทช.สัญญาไว้แต่ยังทำไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นจึงขอให้ช่วยเหลือ คือจะไม่ชำระค่างวดอีก 5 งวดที่เหลือ
ดังนั้นที่ประชุมคสช.มีมติสรุปแนวทางในการช่วยเหลือคือ 1.อนุญาตให้พักชำระหนี้ได้ 3 งวด ใน 5 งวดที่เหลือในปี61,62,63,64,65 เพื่อมีกำลังเก็บเงินไว้ทำธุรกิจให้เกิดสภาพคล่อง แต่การพักชำระหนี้ 3 งวดจะต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ขณะที่ค่าเครือข่ายอนาล็อกของทีวีที่เปลี่ยนเป็นดิจิทัลที่ปัจจุบันมีผู้ให้บริการอยู่ 4 เจ้า คือ บริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) กรมประชาสัมพันธ์ สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กสทช.จะช่วยจ่ายค่าเครือข่ายให้ครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50 เป็นเวลา 2 ปี และอนุญาตให้โอนใบอนุญาตได้ หากมีผู้สนใจอยากขอซื้อต่อก็สามารถโอนกิจการได้ ทั้งนี้ จะออกมาตรา 44 ในเรื่องดังกล่าวในอีก 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม ใบอนุญาตมีอายุ 15 ปี มีการจ่ายเงินค่าใบอนุญาตแล้ว 6 งวด คือตั้งแต่ปี 57-62 โดยมีผู้ประกอบการยังไม่จ่ายค่าใบอนุญาตในงวดที่ 4-6 คือในปี 60-62 โดยทุกช่องจ่ายค่างวดไปแล้วในปี 60 จำนวน 33,000 กว่าล้านบาทและรัฐได้รับเงินมาแล้ว แต่ยังคงค้างอยู่อีก 17,000 กว่าล้านบาท