"จุลพงศ์" ยกปม "เขากระโดง-อัลไพน์" เป็นความล้มเหลวในระบบราชการเต็มไปด้วยกฎระเบียบซับซ้อนปฏิบัติยาก เรียกร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของ จนท.รัฐอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ ส"ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงถึงกรณีปัญหาอันยาวนานของที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ และที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ จ.ปทุมธานี ที่มีหลายฝ่ายออกมาทักท้วง วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกรมที่ดินและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของทั้งนักการเมือง ข้าราชการประจำบางส่วนที่ร่วมกันใช้อำนาจปกป้องพวกพ้อง มีการใช้ช่องว่างทางกฎหมายและกฎระเบียบของทางราชการและของหน่วยงานถ่วงเวลาการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรม รวมทั้งมีการตอบสนองความต้องการของนักการเมืองเพื่อแลกกับความเติบโตในตำแหน่งราชการแต่แลกกับความล้มเหลวของการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทย สำหรับข้าราชการประจำมีความสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายอาญาที่มีโทษจำคุก
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีข้าราชการประจำระดับสูงของกรมที่ดินหลายคนได้รับโทษจำคุกเพราะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลายคนยังอยู่ในเรือนจำ แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ยังมีอำนาจที่จะยกขึ้นมาสืบสวนและฟ้องร้องคดีอาญากับผู้กระทำความผิดได้ สำหรับกรณีเขากระโดงนั้นเป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาแผ่นดินของหน่วยงานรัฐไว้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทั้งกรมที่ดินและการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินและประประมวลกฎหมายที่ดิน ส่วนกระทรวงคมนาคม ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องกำกับให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เลือกวิธีทางกฎหมายที่จะรักษาประโยชน์สาธารณะ ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 หากละเลย ต้องรับผิดชอบ
นายจุลพงศ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่ดินเขากระโดงและที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ขอตั้งข้อสังเกตว่า ทั้ง 2 กรณี เป็นความล้มเหลวในระบบราชการที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบซับซ้อนที่ปฏิบัติตามได้ยาก จึงขอเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ประเทศติดกับดักการไร้ประสิทธิภาพในระบบราชการและในการพัฒนาประเทศ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน