รวบ 3 ผู้ต้องหาซื้อเด็กเมียนมา บังคับใช้แรงงาน ไม่พอใจทุบตี

2024-11-14 19:29:08

รวบ 3 ผู้ต้องหาซื้อเด็กเมียนมา บังคับใช้แรงงาน ไม่พอใจทุบตี

Advertisement

บก.ปคบ.เปิดปฏิบัติการ "เซฟกระรอกน้อย" รวบ 3 ผู้ต้องหาซื้อเด็กจากเมียนมา บังคับใช้แรงงาน  ไม่พอใจทุบตี  

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.67 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ร่วมกันจับกุม 1.น.ส.พรทิพย์  2.นายสมาน และ 3.น.ส.นาว ทา ทา ยี่ สัญชาติเมียนมา ในฐานความผิด "สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หรือรับไว้ซึ่งบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี"

สืบเนื่องจาก ตามที่ได้ปรากฏในภาพข่าว  สะเทือนใจ ด.ญ. 8 ขวบ ถูกแม่ตี ไล่ออกจากบ้านหอบตุ๊กตาคู่ใจนอนตากยุงในสุสานเพียงลำพัง ซึ่งได้ออกอากาศเผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 ซึ่ง พม.จังหวัดชลบุรี ไปรับตัว ด.ญ.คนดังกล่าวไปคุ้มครองสวัสดิภาพไว้และจากการซักถามเบื้องต้นเชื่อว่า ด.ญ.คนดังกล่าวเป็นบุคคลต่างด้าว แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากความบอบช้ำทาง ร่างกาย จิตใจ โดยมีการตรวจพบบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคมบริเวณเล็บมือ นิ้วมือ และแขนขา ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

จนกระทั่งการคุ้มครองสวัสดิภาพเริ่มฟื้นฟู ร่างกาย จิตใจ เด็กหญิงเอ เริ่มให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ ทางสหวิชาชีพ ประกอบด้วย พม.จังหวัดชลบุรี แรงงานจังหวัดชลบุรี และพนักงานสอบสวนหญิง กก.2 บก.ปคม. ร่วมกันสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์พบว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยถูกแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน และทราบว่า ด.ญ.คนดังกล่าวเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ต่อมานักสังคมสงเคราะห์ พม.จังหวัดชลบุรี ได้พาตัว ด.ญ.คนดังกล่าวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดีนี้

จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.ทราบว่า น.ส.นาว ทา ทา ยี่ ผู้ถูกจับที่ 3 เป็นผู้ที่เป็นธุระจัดหา ซื้อ  ด.ญ.คนดังกล่าวมาจาก บิดามารดา โดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นแก่บิดามารดา  เพื่อให้ได้รับความยินยอมในการนำพา ด.ญ.คนดังกล่าว มาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในประเทศเมียนมา โดยเมื่อวันที่ 23 ก.พ.65 มีการจัดทำหนังสือ น.ส.นาว ทา ทา ยี่ ผู้ถูกจับที่ 3 รับ ด.ญ.คนดังกล่าว เป็นบุตรบุญธรรมเป็นนิติกรรมอำพราง จากนั้นใช้ให้บุคคลอื่นนำพา ด.ญ.คนดังกล่าว ผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาในประเทศไทยที่ จ.ตากโดยผิดกฎหมาย แล้วส่งตัวมายัง บ้านพักของนายสมาน  ผู้ถูกจับที่ 2 และ น.ส.นาว ทา ทา ยี่ ผู้ถูกจับที่ 3 ที่ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และร่วมกันให้ ด.ญ. ซึ่งเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพักอาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าวเพื่อให้พ้นการจับกุมก่อน แล้วส่งตัวไปยังบ้านพักของ น.ส.พรทิพย์  ผู้ถูกจับที่ 1 ใน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี เพื่อให้ทำงานบ้านทำความสะอาด หุงข้าวเลี้ยงสุนัข หรือบริการ ร่วมกับ น.ส.พอดี  สัญชาติเมียนมา 

จากการตรวจสอบข้อมูลระบบการแจ้งการทำงานของต่างด้าว สำนักงานจัดหางานจังหวัดชลบุรี ไม่พบว่า น.ส.พรทิพย์ เคยแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวแต่อย่างใด โดยน.ส.พรทิพย์  มีการทำโทษ ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ, ขู่เข็ญด้วยประการใดๆ, ใช้กำลังประทุษร้าย โดยการใช้ไม้ตี การนำตัวมาขังไว้ในห้องภายในบ้านโดยไม่ให้รับประทานอาหารเมื่อทำความผิด และไม่ให้เด็กเดินทางกลับบ้านโดยนำเหตุว่ามารดาของเด็กต้องนำเงินมาคืนก่อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวขณะเกิดเหตุเด็กอายุประมาณ 10–11  ขวบ ซึ่งเป็นผู้เยาว์ เป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา  ถูกลักลอบนำพาเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย และไม่มีที่พึ่งที่อื่นใด เป็นการทำให้เด็กอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และจำต้องทำงาน จนกระทั่งมีการหลบหนีออกมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายค้นบ้านของ น.ส.พรทิพย์ ใน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี และได้ช่วยเหลือ ด.ญ.อีกคนหนึ่ง ซึ่งได้ทำงานอยู่ในบ้านดังกล่าวออกมาคุ้มครองสวัสดิภาพ และเชื่อว่าก็น่าจะเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยการบังคับแรงงานเช่นกัน โดยได้ตรวจยึดพยานหลักฐานสำคัญเป็นเมมโมรี่จากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพว่ามี ด.ญ.อีกคนหนึ่งเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในบ้าน แต่หลบหนีไปขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะเข้าตรวจค้น และบันทึกภาพขณะที่ น.ส.พรทิพย์ ผู้ถูกจับที่ 1 กำลังขู่ตะคอก ด.ญ.  2 คน เมื่อทำงานผิดพลาด  และมีภาพขณะที่ น.ส.พรทิพย์ทุบตีทำร้ายร่างกายเด็กด้วย

พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ถูกจับทั้ง 3 ดังกล่าวข้างต้น ตามฐานความผิดดังกล่าวข้างต้น และต่อมา ได้ร่วมกันจับกุมตัวมาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.เพื่อดำเนินคดีต่อไป

.