"เรืองไกร"รื้อคดีฟุตซอลร้อง กกต. สอบ "นายกฯ- 3 รมต."

2024-11-14 15:48:51

"เรืองไกร"รื้อคดีฟุตซอลร้อง กกต. สอบ "นายกฯ- 3 รมต."

Advertisement

"เรืองไกร"รื้อคดีฟุตซอลร้อง กกต. สอบนายกฯ พ่วง 3 รมต.  

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 67 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวว่า ใช้เวลาศึกษาคดีฟุตซอลมานานพอควร จนศาลฎีกาตัดสินว่ามีความผิดอาญาไปแล้วหนึ่งคดี ซึ่งทำให้เห็นได้ว่า คดีนี้เป็นการใช้งบแปรญัตติปี 2555 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( สพฐ. ) โดยไม่ชอบ และมีวงเงินสูงถึง 4,459.42 ล้านบาท คดีฟุตซอลมีความล่าช้ามาก ซึ่งต้องให้ ป.ป.ช. ชี้แจงต่อสาธารณชนเอง แต่สำหรับเรื่องที่ตนร้อง กกต. ทางไปรษณีย์ EMS วันนี้ เป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีไปแต่งตั้งรัฐมนตรี 3 ราย ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในเอกสารสำนวนคดีที่ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยทั้ง 3 ราย นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ก.ย.67 ดังนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางมนพร เจริฐศรี เป็น รมช.คมนาคม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เป็น รมช.มหาดไทย

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า เมื่อย้อนไปตรวจสำนวนคดีหน้า 09870 พบว่า  จำเลยที่ 1 นางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 132 ได้งบประมาณ 60,000,000 บาท เมื่อตรวจสอบรายชื่อก่อนหน้านี้ หน้า 09867 ลำดับที่ 38 มีชื่อ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ ส.ส.กทม. เขต 20 พรรคเพื่อไทย ได้งบประมาณ 20,000,000 บาท หน้า 09868 ลำดับที่ 51 มีชื่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เขต 14 พรรคเพื่อไทย ได้งบประมาณ 2,000,000 บาท ลำดับที่ 69 มีชื่อนางมนพร เจริญศรี ส.ส. นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้งบประมาณ 13,000,000 บาท

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีตามพยานหลักฐานในสำนวนคดีที่ศาลรับฟังแล้ว ย่อมเป็นข้อเท็จจริงที่อาจทำให้เข้าใจได้ว่า รัฐมนตรีทั้ง 3 คน ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไปนั้น อาจจะมีการเข้าไปมีส่วนร่วมในการใช้เงินงบประมาณโดยมิชอบด้วยหรือไม่  กรณีนี้จึงไม่ควรจะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกต่อไป ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5)เมื่อตนทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ปรับรัฐมนตรีทั้ง 3 ราย ออกจากตำแหน่ง แต่นายกรัฐมนตรีกลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ กรณีดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 3 ราย เข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ หรือมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือไม่ กรณี จะเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร  สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่ ทั้งนี้ตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567