พปชร.จ่อยื่นจดหมายเปิดผนึกนายกฯเรียกร้อง 4 ข้อ ยกเลิก MOU44 อย่างเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยมงคล ไชยรบ ส.ส.สกลนคร รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)และ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน ได้มีมติพรรคให้ยื่นหนังสือเปิดผนึกไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินการยกเลิก MOU 2544 เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ศึกษาผลกระทบแล้วพบว่า แผนที่แนบ MOU 2544 ได้ปรากฎเส้นเขตแดนของประเทศกัมพูชาที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสากลและรวมเอาน่านน้ำภายในของจ.ตราด ทะเลอาณาเขตของเกาะกูดด้านทิศใต้ รวมถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะกลางอ่าวไทย เข้าเป็นพื้นที่ ๆ ฝ่ายกัมพูชา นำมาใช้เป็นกรอบการเจรจา ซึ่งการยอมรับเส้นเขตแดนของฝ่ายกัมพูชาที่กล่าวอ้างโดยไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล จึงมีความสุ่มเสียงที่จะทำให้ประเทศไทยเสียอธิปไตยทางทะเลบริเวณเกาะกูด
นายชัยมงคล กล่าวว่า ดังนั้น ด้วยเจตนารมณ์ของหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี 4 ข้อ ดังนี้ 1.ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อยกเลิก MOU 2544 อย่างเร่งด่วน 2.ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดำเนินการแก้ปัญหาเขตอธิปไตยทางทะเลบริเวณเกาะกูด ต้องยึดตามกฎหมายทะเลที่เป็นสากลและดำเนินการเจรจาเฉพาะเรื่องเขตแดนทางทะเลให้เสร็จสิ้นก่อน โดยต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องเขตแดนทางทะเลและอำนาจอธิปไตยของชาติยิงไปกว่าผลประโยชน์อื่นใด โดยจะต้องรักษาทรัพยากรของชาติไว้ให้ลูกหลานสืบไป 3.ขอให้สั่งการให้บุคคลและหน่วยงานรัฐ หยุดกระทำการใดๆ ในอันที่จะก่อให้เกิดข้อผูกพันตามกฎหมายอันจะนำมาจึงก่ารเสียดินแดนอธิปไตยทางทะเลและผลประโยชน์ในทรัพยากรฯของชาติและของประชาชน 4.ขอให้ระลึกถึงบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ที่ได้ถวายสัตย์ไว้ว่า "จะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและของประชาชน และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"
นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐ จะดำเนินการยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าวให้กับนายกรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า เพื่อตอกย้ำให้เห็นจุดยืนของพรรคในการที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มใดมาแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ หรืออาณาเขต และจดหมายฉบับนี้หวังว่าจะช่วยคืนความทรงจำและยับยั้งให้นายกรัฐมนตรีได้ฉุกคิดในการที่จะเจรจาผลประโยชน์ปิโตรเลียมในกรอบ MOU 2544
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ยืนยันชัดเจนว่าจะรักษาผืนแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วไว้ด้วยชีวิต และจะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดนำอาณาเขตหรือพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ ไปใช้ประโยชน์ เพื่อเอื้อผลประโยชน์ต่อครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวใดเท่านั้น เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะลงพื้นที่เกาะกูดหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง แต่ขณะนี้ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่แล้ว และสิ่งที่พรรคเป็นห่วงคือในพื้นที่ทับซ้อน ที่มีการเซ็นยอมรับ ที่อาจเสี่ยงสูญเสียแผ่นดินไทย ทั้งนี้พรรคจะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า