"ราชทัณฑ์" แจงผู้ต้องขังแทงกันดับ

2024-11-11 11:16:17

"ราชทัณฑ์" แจงผู้ต้องขังแทงกันดับ

Advertisement

"ราชทัณฑ์" แจงกรณีผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษมีนบุรีทะเลาะวิวาทแทงกันดับ แจ้งความผู้ก่อเหตุย้ายไปที่อื่นแล้ว  พร้อมสั่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง 

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 พ.ย.67 เกิดเหตุผู้ต้องขังทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันในเรือนจำพิเศษมีนบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย นั้น

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.67 กรมราชทัณฑ์ รายงานว่า ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษมีนบุรีว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.67  เวลาประมาณ 08.15  น. เกิดเหตุผู้ต้องขังทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน บริเวณใต้โดมร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังแดน 5 และเจ้าหน้าที่ได้เข้าระงับเหตุโดยเร็ว จากนั้นพบผู้ต้องขังรายหนึ่งถูกของมีคมแทงอาการสาหัส จึงได้รีบ นำตัวส่งสถานพยาบาลของเรือนจำ และได้ประสานรถฉุกเฉิน 1669 เพื่อร่วมช่วยฟื้นคืนชีพ แต่ผู้ต้องขังเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในการนี้ เรือนจำพิเศษมีนบุรี ได้ดำเนินการทางวินัยกับผู้ต้องขังที่กระทำความผิดและแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี พร้อมทั้งประสานกองทัณฑวิทยานำชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าจู่โจมตรวจค้นภายในเรือนจำ และได้ดำเนินการย้ายผู้ก่อเหตุไปเรือนจำอื่น เพื่อควบคุมและดำเนินการตามชั้นตอนตามมาตรฐานการปฏิบัติงานควบคุมผู้ต้องขังต่อไป 

โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ เรือนจำพิเศษมีนบุรีรายงานว่า เกิดจากมีการทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มผู้ต้องขังที่มีมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่อยู่ภายนอกเรือนจำ และเมื่อเข้ามาพบกันในเรือนจำจึงทำให้มีการกระทบกระทั่งกัน มาโดยตลอด แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีความพยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีมาตรการ การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างเข้มงวดก็ตาม แต่เรือนจำพิเศษมีนบุรียังมีข้อจำกัดที่สำคัญเช่นเดียวกับเรือนจำ ทั่วประเทศ ได้แก่ความแออัดของผู้ต้องขังและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ต่อผู้ต้องขังต่ำกว่ามาตรฐานสากล ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์นี้ทำให้กรมราชทัณฑ์ต้องยกระดับในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้มีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น พร้อมทบทวนปรับปรุงระบบต่าง ๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในส่วนของกลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อเหตุ ทางเรือนจำได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

กรมราชทัณฑ์ขอแสดงความเสียใจและพร้อมให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว และขอเน้นย้ำว่าเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง ภายใต้การดูแลของ กรมราชทัณฑ์ ได้ให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยและสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังทุกคนมาโดยตลอด