"พล.ต.ท.อัคราเดช"ชี้ "ทนายตั้ม-เมีย" พยายามหลบหนีออกนอกประเทศ

2024-11-07 17:54:26

"พล.ต.ท.อัคราเดช"ชี้ "ทนายตั้ม-เมีย" พยายามหลบหนีออกนอกประเทศ

Advertisement

 "พล.ต.ท.อัคราเดช"ชี้ "ทนายตั้ม-เมีย" พยายามหลบหนีออกนอกประเทศ  เตรียมฝากขัง 8 พ.ย.  คัดค้านการประกันตัว

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 67 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงการจับกุม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา  ว่า เท่าที่ทราบ ทนายตั้มและภรรยามีพฤติการณ์จะหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะอาจรับรู้ว่าตำรวจจะออกหมายจับ เนื่องจากทางตำรวจขอหมายจับช่วงเวลา 11.00 น. แต่ทนายตั้มออกจากบ้านย่านตลิ่งชันในเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน โดยขับรถมุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก แต่ตำรวจได้ติดตามจนประสานตำรวจทางหลวงในพื้นที่ช่วยกันสกัดจับก่อนจะหนีออกนอกประเทศไปได้ โดยตำรวจเริ่มสะกดรอยจากสิ่งที่ตำรวจตรวจได้ จนพบว่าเริ่มขับออกจาก กทม. และเขตปริมณฑลจึงตัดสินใจเข้าจับกุมเนื่องจากสมรรถนะรถตำรวจไม่เทียบเท่ารถที่ทนายตั้มและภรรยาใช้เดินทาง และมีแนวโน้มออกนอกประเทศ หากปล่อยไว้เนิ่นนานอาจจะติดตามได้ยาก ส่วนที่อ้างว่าจะไปปฏิบัติธรรมก็เป็นคำให้การของผู้ต้องหาที่มีสิทธิจะพูด

พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า การขอออกหมายจับในวันนี้เพราะทนายตั้มมีการไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จากกรณีเจ๊อ้อยเงินจำนวน 71 ล้านบาท ตอ่ข้อถามว่าทนายตั้มมีพฤติการณ์อย่างไร พล.ต.ท.อัคราเดช ระบุว่า ตามที่ปรากฏในสื่อที่มีการไปปรากฏตัวตามที่ต่าง ๆ  

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าอวีกว่า  นอกจากนี้ เจ๊อ้อยยังมีอีกหลายคดีนอกเหนือจากคดี 71 ล้านบาท ที่เตรียมเข้าดำเนินคดีกับทนายตั้มเช่นกัน   เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้รู้กฎหมายและอาจรู้จักผู้ใหญ่ระดับสูงจะมีผลต่อคดีหรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดช  กล่าวว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  อย่างไรก็ตามในวันที่ 8 พ.ย.67  เตรียมนำตัวส่งศาลอาญารัชดา ฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว