"เสรีพิศุทธิ์-บิ๊กโจ๊ก" ไม่ให้ข้อมูล กมธ. ปม "ทักษิณ" นอนขั้น 14

2024-11-07 12:39:23

 "เสรีพิศุทธิ์-บิ๊กโจ๊ก" ไม่ให้ข้อมูล กมธ. ปม  "ทักษิณ" นอนขั้น 14

Advertisement

กมธ.ความมั่นคงเชิญ  "รพ.ราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ" แจงปม  "ทักษิณ"นอนขั้น 14  "โรม" ยันหาข้อเท็จจริงให้ได้ วอนเจ้าหน้าที่มาชี้แจงแก้คำครหาสังคม  "เสรีพิศุทธิ์-บิ๊กโจ๊ก" ไม่มาให้ข้อมูล

เมื่อวันที่ 7 พ.ย.67 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเชิญบุคคลที่เกี่ยวเข้ามาให้ข้อเท็จจริงด้านกระบวนการยุติธรรมที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่ ว่า หลังจากออกจดหมายเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมการพิจารณา มีหลายคนที่ไม่มาร่วมประชุมด้วยแน่นอน อย่าง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ก็จะไม่มาร่วมการประชุมด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะมาหรือไม่คงไม่สามารถหยุดให้ กมธ.แสวงหาความจริงได้

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้กระทบกับความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมของไทย มีฝ่ายต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องและไม่สามารถสืบหาความจริงได้ ทาง กมธ.มีความชอบธรรมในการแสวงหาความจริงต่อไป ส่วนกรอบการพิจารณาในเรื่องนี้ ไม่ได้วางกรอบไว้อย่างชัดเจน อยู่ที่ข้อมูลที่ได้รับมา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 129 กมธ.มีความชอบธรรมและมีอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริง การพิจารณาเรื่องเดิม 7 ครั้งก็เคยทำมาแล้ว อยู่ที่ข้อเท็จจริงในการทำหน้าที่ของ กมธ.ถ้าทุกฝ่ายมาให้ข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับตนเอง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอยากให้เข้ามาชี้แจงรวมถึงตอบคำถามของคณะ กมธ. เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องตัวเอง จากคำครหาหรือแม้แต่ในทางกฎหมายด้วย

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้การพิจารณาวางไว้ 2 ประเด็นหลัก อย่างประเด็นการเจ็บป่วยของนายทักษิณว่าป่วยจริงหรือไม่ ถ้าป่วยจริงก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าสิ่งไหนเข้าข่ายการไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 ได้บ้าง ส่วนประเด็นต่อมาการไปพบปะกับผู้คนต่าง ๆ เพราะการอยู่ชั้น 14 หมายถึงการอยู่เพื่อควบคุมตัวใช่หรือไม่ เสมือนอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ แต่ที่มีการพบปะเหมือนอยู่บ้านคิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อย่างกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปพบนายทักษิณที่ชั้น 14 ก็เห็นว่ายังไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เลย กมธ.ก็ต้องเอาข้อเท็จจริงนี้ออกมา และพล.ต.อ.พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หรือบิ๊กโจ๊กก็ตกลงที่จะมาร่วมให้ข้อมูลด้วย จะได้ถามข้อมูลด้วยเช่นกัน เพราะในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นบุคคลที่มีบทบาทหน้าที่หลากหลายอย่าง

เมื่อถามว่ากรมราชทัณฑ์จะยืนยันว่าการพักรักษาตัวของนายทักษิณ จะไม่เคยปล่อยให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว นายรังสิมันต์ ยิ้มและกล่าวว่า ถ้าสมมติว่าจะโต้ว่าไม่จริง ก็ต้องบอกว่าสิ่งที่พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ไม่เป็นความจริงหรือพล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ มีความสามารถพิเศษที่จะเข้าไปเยี่ยมนายทักษิณได้ ดังนั้นใครโกหกหรือใครพูดเป็นความจริงหรือไม่ จะได้มาค้นหาข้อเท็จจริง กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องสำคัญกับประเทศชาติมากเป็นกระดูกสันหลัง ขณะนี้ ยังไม่ได้เห็นข้อมูลอะไรมากมีการลิสต์คำถามมาได้ไม่เกิน 10-20 ข้อ หากได้ข้อมูลอะไรการแสวงหาเพิ่มเติมว่าต้องเรียกเอกสารอะไรคงไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่ ป.ป.ช.ที่ขอเอกสารไปยังเจออุปสรรค น่าคิดเหมือนกันว่าการทำหน้าที่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ไม่ต้องกลัวอะไรให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงพยานหลักฐานน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกฎหมาย PDPA ที่ตำรวจอ้างเพื่อไม่ต้องให้ข้อมูล ซึ่ง กมธ.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ก็สามารถเข้าถึงเอกสารหลักฐานได้ต่าง ๆ อยู่แล้วหากไปดูเนื้อในของกฎหมายของ PDPA ไม่ได้หมายความว่าไม่มีข้อยกเว้นเลย ดังนั้นจะมาอ้างเรื่องนี้ไม่ได้ รวมไปถึงการไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือรัฐมนตรีก็อาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามในส่วนของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ แจ้งว่าจะมาชี้แจง แต่เมื่อถึงเวลาประชุม ยังไม่เดินทางมาและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนผู้ที่แจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ แต่จะส่งเอกสารประกอบการพิจารณาภายหลัง