"กรมพัฒนาธุรกิจการค้า-บช.ก." จับมือปราบ "บัญชีม้า"

2024-11-04 15:53:28

"กรมพัฒนาธุรกิจการค้า-บช.ก." จับมือปราบ "บัญชีม้า"

Advertisement

รมช.พาณิชย์ เป็นสักขีพยานเอ็มโอยู  "กรมพัฒนาธุรกิจการค้า-บช.ก." จับมือปราบ "บัญชีม้า" ตัดวงจรโจรออนไลน์

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.67 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เป็นสักขีพยานพิธีลงนาม MOU การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคลและการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลตามขอบข่ายภารกิจของหน่วยงานที่จะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด สร้างความมั่นใจให้นิติบุคคลไทยและปิดวงจรมิจฉาชีพไม่ให้มีโอกาสมาหลอกคนไทยอีก

นายนภินทร กล่าวว่า รัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  มีนโยบายในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเน้นให้ความสำคัญกับมาตรการการตรวจสอบและปราบปรามบัญชีม้า ซึ่งเป็นช่องทางหลักการหลอกลวงรับเงินของมิจฉาชีพ โดยที่ประชุม ครม.มอบหมายให้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ดำเนินการเรื่องดำกล่าวอย่างเร่งด่วนและรายงานผลให้ ครม.ทราบภายใน 30 วัน และ นายพิชัย ได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ ในการตรวจสอบ พฤติกรรมของบุคคลหรือนิติบุคคลที่อาจมีพฤติกรรมในนการประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเป็นตัวเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินี เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด  โดยในวันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ มีการลงนามความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคลและการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง   ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญอย่างมาก

นายนภินทร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพได้เปลี่ยนวิธีการการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยใช้วิธีจดทะเบียนนิติบุคคลและนำหลักฐานการจดทะเบียนนิติบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้านิติบุคคล) และนำบัญชีม้านิติบุคคลนั้น มาใช้เป็นบัญชีรับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการหลีกเลี่ยงการจดทะเบียนนิติบุคคลโดยการหลีกเลี่ยงกฎหมายการจดทะเบียนของคนต่างด้าว ปัจจุบันพบว่ามีบัญชีม้าที่เป็นนิติบุคคล 602 บัญชี สร้างมูลค่าความเสียหาย 680 ล้านบาท สิ่งเหล่านี้รัฐบาลให้ความสำคัญ และตระหนัก ความเสียหายเช่นนี้เกิดขึ้นกับคนไทย ที่ประกอบอาชีพสุจริต การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องร่วมมือกันโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นจุดเริ่มต้นของการจดทะเบียนนิติบุคคลซึ่งสร้างความเชื่อถือให้กับบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะบุคคลต่างประเทศก็ดีเพราะฉะนั้นจะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้มีการจดทะเบียนที่รัดกุมขึ้น ผมได้กำชับให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งตรวจสอบนิติบุคคลที่มีความเสี่ยง พร้อมทำงานจดทะเบียนธุรกิจอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น และปิดโอกาสไม่ให้มิจฉาชีพนำความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลมาใช้หลอกลวงประชาชนได้ และเร่งสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดได้ทันที

"การลงนามบันทึกความตกลงในวันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญในการใช้อำนาจที่ต่างฝ่ายต่างมีอำนาจรัฐมาร่วมกันเพื่อป้องความเสียหายที่เกิดขึ้น ป้องปรามผู้กระทำความผิดที่มีความคิด วางแผน เตรียมการให้หยุดกระทำ และปราบปรามผู้กระทำความผิด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้นเพื่อให้คนไทยนั้นอยู่ดีมีสุข นี่คือเรื่องสำคัญที่รัฐบาลให้ความเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ผมขอขอบคุณกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความร่วมมือในการทำงานครั้งนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าการลงนามฉบับนี้เป็นการก้าวสำคัญในการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เสียหาย ลดความเดือดร้อนของสังคม ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นรูปธรรม“ นายนภินทร กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้กล่าวถึงการร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ภายใต้ MOU ฉบับนี้กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลางจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในมิติที่ลึกขึ้นในการสืบสวนสอบสวนการเปิดบัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคล และในกรณีที่มีคนไทยรับจ้างเป็นนอมินีให้แก่คนต่างชาติเพื่อเอื้อในการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายหรือหลบเลี่ยงกฎหมายของไทย ที่ปัจจุบันพบการทำความผิดและได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งการเชื่อมโยงข้อมูลจากกรมฯ จะทำให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ครบถ้วนขึ้น