ปักกิ่ง, 1 พ.ย.(ซินหัว) — ข้อมูลจากช่วงวันหยุดวันชาติเผยว่านยอดการจองโรงแรมมีแนวโน้มที่มั่นคง โดยมีรูปแบบการ “จองเยอะ ลดเยอะ” อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบเห็นได้ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนและเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยยอกการจองโรงแรมพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ สวนทางกับราคาที่ลดลง
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างเล็งเห็นถึง “ความคุ้มค่าในการใช้จ่าย” ในการบริโภคในโรงแรมมากขึ้น โดยมีความต้องการโรงแรมคุณภาพสูงในที่ท่องเที่ยวระดับอำเภอเพิ่มมากขึ้น และเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลวันหยุด เริ่มต้นฤดูกาลท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม ความสนใจของตลาดจึงหันไปอยู่ที่วิธีรักษาความสามารถในการแข่งขันของโรงแรม โดยเฉพาะในเมืองระดับล่าง
ช่วงสัปดาห์วันหยุดวันชาติเป็นช่วงเวลทองที่การท่องเที่ยวพุ่งสูงขึ้น โดยมีอัตราการจองและการเข้าพักที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบปีต่อปี โดยรายงานฟลิกกี (Fliggy) แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของโรงแรมหลายดาวในประเทศ การเดินทาง และการเช่ารถ ขณะที่การท่องเที่ยวขาออกยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการจองโรงแรมต่างประเทศแตะราวร้อยละ 120 ของยอดปี 2019
แม้จะมีการจองเพิ่มขึ้น แต่ราคาโรงแรมกลับลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบปีต่อปี ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแนวโน้มดังกล่าวเกิดจากความต้องการขายหรืออุปทานของโรงแรมที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น และความต้องการวันหยุดพักผ่อนที่สั้นลงและความคุ้มทุนของผู้บริโภค
ปัจจุบัน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจีนกำลังเปลี่ยนผ่านสู่การเน้นคุณภาพและเน้นการท่องเที่ยวที่ปรับแต่งตามความต้องการได้ ขณะที่นักท่องเที่ยวมองหาจุดหมายปลายทางที่มีทัศนียภาพธรรมชาติ มรดกทางวัฒนธรรม และค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า โดยซีทริป (Ctrip) รายงานว่าการท่องเที่ยวระดับอำเภอกลายเป็นจุดเน้นใหม่ของการท่องเที่ยววันหยุด ขณะที่การจองโรงแรมในอำเภอต่างๆ ของจีนเกือบ 100 แห่งเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบปีต่อปี
เนื่องจากความต้องการโรงแรมคุณภาพสูงในราคาสมเหตุสมผลเพิ่มมากขึ้น กลุ่มโรงแรมต่างๆ จึงขยายสู่ตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น แบรนด์ใหญ่อย่างฮั่นถิง (Hanting) จี้โฮเทล (Ji Hotel) หัวจู้ กรุ๊ป (Huazhu Group) มุ่งเป้าที่ตลาดระดับล่างมากขึ้น บางแห่งมีแผนจะเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มอีกกว่าพันแห่งในอำเภอต่างๆ ในปี 2024
นอกจากนี้ การแข่งขันในอุตสาหกรรมโรงแรมกำลังเปลี่ยนผ่านจากการแข่งขันด้านขนาดและราคาไปสู่การเจาะตลาดระดับล่างและมุ่งเป้าที่กลุ่มระดับกลางถึงระดับสูง โดยเน้นที่คุณภาพเป็นหลัก โดยบริษัทชั้นนำหลายแห่งได้รับประโยชน์จากการปรับโครงสร้างตลาดนี้ โดยการบูรณาการตลาดที่มีอยู่จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา และคาดว่ากลุ่มโรงแรมต่างๆ จะปรับรูปแบบการพัฒนาแบรนด์ของตนในตลาดที่มีอยู่
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าโรงแรมต่างๆ ควรปรับกลยุทธ์ด้านราคาและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามแนวโน้มการบริโภคที่คำนึงถึงความสมเหตุสมผล โดยให้ความสำคัญกับอัตราการเข้าพักและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อเป็นการร่วมมือกับภาคส่วนอื่นๆ เพื่อสร้างผลกำไรและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภค
(เรียบเรียงโดย Niu Huizhe, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/342647.html)