กมธ.ถกปมดิไอคอนกรุ๊ป "ไผ่" ลั่นกัดไม่ปล่อยคนทำร้ายองค์กรสภา

2024-10-31 21:29:36

กมธ.ถกปมดิไอคอนกรุ๊ป "ไผ่" ลั่นกัดไม่ปล่อยคนทำร้ายองค์กรสภา

Advertisement

กมธ.คุ้มครองผู้บริโภคถกปม "ดิไอคอนกรุ๊ป" ด้าน  "ไผ่"จี้  ลั่นกัดไม่ปล่อยนักการเมืองคนทำร้ายองค์กรสภา   

เมื่อวันที่ 31 ต.ค.67 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ. )การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาพปัญหา และมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค จากการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยเฉพาะกรณีของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป โดยมีการเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนกรุ๊ป เข้าชี้แจง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เป็นต้น

ประธาน กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม กมธ.ว่า เรื่องคดีดิไอคอนได้เข้าไปอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอแล้ว แต่วันนี้ได้รับการยืนยันว่าเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ตร.   ดีเอสไอ และ ปปง.โดยตัวแทนทุกฝ่ายกำลังสืบสวนสอบสวนเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรติดขัด

เมื่อถามว่าประเด็นที่ กมธ.เชิญมาชี้แจง เป็นประเด็นอะไร และมีการสอบถามถึงเทวดาใน สคบ.หรือไม่ นางบุญยิ่ง กล่าวว่า เรื่องเทวดาใน สคบ. ยังประชุมไปไม่ถึง เพราะการหารือสงสัยว่า ในคลิปมีการพาดพิงถึงดีเอสไอว่า ทำไมการทำงานของดีเอสไอในสังคมเวลามีเรื่องผิดถึงต้องเข้ามารื้อตรวจสอบ แต่ปัจจุบันมีคลิปออกมาพาดพิงถึงดีเอสไอ แต่ดีเอสไอกลับนิ่งเฉย ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ตัวเองถูกพาดพิงได้รับความเสียหาย โดยดีเอสไอขอเวลาเร่งดำเนินการสอบสวนให้ชัดเจนกว่านี้

ต่อข้อถามว่า  มีประเด็นใดที่น่าสงสัยหรือติดใจว่าดีเอสไอจะเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่  นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ร้องเรื่องคลิปนาฬิกาปลอม กล่าวว่าได้เข้าไปซักถามทางผู้ที่มาชี้แจง​ โดยได้สอบถามเรื่องคลิปต่างๆที่มีการพาดพิง​ถึงดีเอสไอ รวมไปถึงเรื่องที่ดีเอสไอบุกจับนาฬิกาปลอมของบอส​ดิไอคอน​มีขั้นตอนการรับเรื่องอย่างไร​ เหตุใดผู้แจ้งเบาะแสจึงโทรหาดีเอสไอ ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่า​ ผู้แจ้ง​บอกว่าเป็นของบอสอ๊อฟ​ แต่ส่วนตัวมองว่า​ ไม่น่าใช่​ แต่ดีเอสไอ ก็รับปากว่าจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง

ต่อข้อถามว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอเข้าไปเกี่ยวข้อง และเป็นคนทำคดีเองดีเอสไอจะทำอย่างให้ประชาชนเชื่อมั่น  นายไผ่ กล่าวว่า วันนี้เป็นข้อกฎหมายแล้ว จำเป็นต้องทำ ถ้าไม่ทำก็จะโดนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา157 วันนี้เราฝากไปแล้วว่า ในภาคของ ส.ส. ได้รับการกล่าวถึงด้วย กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ มีการเข้าไปเกี่ยวข้อง และมาเคลียร์กัน เราคุยกับหลายภาคส่วนแล้ว เป็นการแอบอ้าง แต่ยังไม่ฟันธง ดังนั้น กมธ.จะเกาะติด จับตา และขอร้องว่าคดีลักษณะนี้อย่าให้มีความเคลือบแคลงใจ

เมื่อถามว่า มีการพูดคุยถึงหมายจับรอบ 2 หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เราไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนั้น แต่ทางตำรวจบอกแล้ว ทั้งตำรวจ และดีเอสไอ ยืนยันจะไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม เรื่องไปถึงไหน เอาความผิดเต็มที่ ส่วนกรณีที่มี ส.ว.ออกมาแสดงความเห็นว่าหากคดีเข้าไปอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ จะทำให้คดีขาดอายุความก่อนที่จะดำเนินคดีนั้น ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่วันนี้เขายังไม่ได้ทำอะไร แต่จุดที่เราสงสัยคือทำไม ทางฝั่งผู้ต้องหาถึงพยายามก่อเรื่องในลักษณะให้มีการจับเรื่องนาฬิกา หรือโยนไปให้ดีเอสไอ เป็นข้อที่เราติงไว้อยู่แล้ว แต่เราต้องให้โอกาสเขาก่อน วันนี้พูดคุยหลายอย่าง แต่จะให้ออกมาเปิดเผยคงไม่เหมาะสม อาจเป็นการชี้นำ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีความชัดเจนขึ้น

เมื่อถามว่า กมธ.วางกรอบการทำงานที่ยังเป็นประเด็นสงสัย และจะสรุปอย่างไร นายไผ่ กล่าวว่า ต้องดูหลังจากนี้ว่าสิ่งที่เราดำเนินการไปมีการขยับแบบใดที่จะทำให้หายสงสัย และแก้ปัญหาให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม แต่เรื่องคดีไม่สามารถทำให้เร็วได้ เพราะต้องเข้าสู่กระบวนการศาล  เมื่อถามอีกว่า การประชุม กมธ.สัปดาห์หน้าจะเชิญหน่วยงานใดมาชี้เพิ่มเติม นายไผ่ กล่าวว่า ต้องรอดู หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมตนก็จะร้องอีก เพื่อให้มีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงอีก

ต่อข้อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่านายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล อาจจะรอดคดี นายไผ่ กล่าวว่า จะมองอย่างนั้นก็ไม่ถูก เพราะเราไม่สามารถไปตัดสินอย่างนั้นได้ แต่กรรมาธิการถูกแอบอ้างจากบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งตนเป็นหนึ่งใน  กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภค ชุดเก่า และนางบุญยิ่ง ในฐานะประธาน กมธ.ชุดใหม่ รวมถึงสภาฯได้รับความเสียหายจากคลิปบุคคล ส. ตรงนี้เราเจาะไปหลายเรื่อง และยังพูดถึงมุมความผิดอีกหลายเรื่อง อะไรที่เราที่เห็นเราได้ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เชิญมาไปหมดแล้ว เราจะเกาะติดเรื่องนี้ เพื่อทำให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจโดยเฉพาะ ปปง. เราได้ฝากข้อมูล ไปว่ามีทรัพย์สินตรงไหนที่ควรไปตาม คนนั้นเรียกรับอย่างนี้คนนี้ทำอย่างนั้น ไม่ต้องห่วง กมธ.ชุดนี้ทำเต็มที่

เมื่อถามว่าล่าสุดมีการพบข้อมูลว่ามีการโอนเงินไปให้แม่ของนักการเมือง ส. จำนวน 2.5 ล้านบาท นายไผ่ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็มีการพูดคุยกัน วันนี้เราตามทั้งเส้นทางการเงิน และทรัพย์สินที่ไม่ใช่เส้นทางการเงินทั้งหมด โดยนางบุญยิ่ง ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบทั้งหมด ทั้งคนในครอบครัว ทั้งที่มีและไม่มีเส้นทางการเงิน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐที่เป็นตัวแทนมาหนึ่งคนก็ยืนยันกับ กมธ.ว่าจะไม่มีการอุ้ม เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่มีคลิปใหม่ๆ และโยนกันไปมา ไม่เกิดผลดีกับฝ่ายใด หลังจากนี้เราจะทำความจริงให้ปรากฏ เรากัดไม่ปล่อย เพราะเป็นการทำร้ายองค์กรสภาให้เสียหาย ขณะที่ดีเอสไอก็รับปากในสิ่งที่เราติติง โดยจะเคลียร์และชี้แจงกับสื่อ จึงขอให้รอดูไปก่อน หากไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น และมีข้อสงสัยเราก็จะดำเนินการผ่านกลไกของรัฐสภา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนต่อไป คนเอามาก็คงไม่รู้​ ว่ามันจะขนาดนี้​ แต่หลังจากนี้ เราจะเอาความจริงเล่นกัดไม่ปล่อย เพราะมันเป็นการทำร้ายองค์กร

นายไผ่ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เรายังหารือถึงเรื่องที่มีการนำพยานปลอมมา กมธ. ก็ย้ำว่าให้ดำเนินการให้เด็ดขาด ไม่ว่าจะสาวถึงใคร โดยฝากกับตำรวจและดีเอสไอ เพราะเป็นพยานที่ทำให้คดีเสียหาย ซึ่งทุกพรรคที่อยู่ใน กมธ. มีความเห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่ปกป้องคนผิด เพื่อไม่ให้มีการแทรกแซง และให้ผลประโยชน์กลับคืนไปถึงประชาชนที่ได้รับความเสียหาย

เมื่อถามต่อว่า กมธ. จะเชิญนักการเมือง ส. มาชี้แจงหรือไม่อย่างไร นายไผ่ กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ได้พูดถึง เพราะมันพูดไม่ได้ รอให้ขั้นตอนมันเดินไปถึงจุดนั้นก่อน โดยประธาน กมธ.ยังสำทับไปกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องว่าทำไมคดีอื่นคืบหน้าเร็ว แต่คดีนี้ล่าช้า แม้กระทั่งตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องยังระบุชื่อไม่ได้ และต้องใช้อักษรย่อนั้น เป็นเพราะอะไร ตัวแทนตำรวจที่มาชี้แจงวันนี้คือกลุ่มงานที่ทำคดีดิไอคอน ไม่ได้ทำคดีที่เกี่ยวกับบุคคล ส. แต่ถ้าคดีนี้ยังไม่คืบ ตนจะร้องเรื่องนี้เอง และขอให้นางบุญยิ่งนำเรื่องคดีนักการเมือง ส. เข้ามาพิจารณา เพื่อความชัดเจน

ด้านนางบุญยิ่ง กล่าวด้วยว่า วันนี้  ตร.ได้นำเส้นทางการเงินของนาย ส. มาให้ดู ว่ามีทรัพย์สินอย่างไรบ้าง มีเงินเข้าเงินออกอย่างไร ซึ่งเอกสารยืนยันจากธนาคารต้องรอหลายวัน แต่ตัวแทน ตร. ดีเอสไอ และ สตง. รับปากว่าจะร่วมกันเร่งทำงานเพื่อให้สังคมคลายความกังวล ส่วนกรณีที่มีการเอาพยานปลอมเข้ามานั้น เรามองว่าเป็นการทำให้สังคมและตำรวจสับสน เรามองเห็นชัดแล้วว่าพาดพิงถึงใครดีเอสไอต้องดำเนินการตรงนั้นก่อน

ขณะที่นายไผ่​ กล่าวทิ้งท้าย​ว่า​ การอ้างอักษรย่อเป็นเรื่องเลอะเทอะ​