รอง ผวจ.สมุทรสาคร และนายอำเภอกระทุ่มแบน ลุยขุดต้นตอคลองสีชมพู พบโรงรับซื้อของเก่าชุ่ยปล่อยน้ำสีชมพูลงคลอง
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผวจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน ,พ.อ.เกรียงชัย สุวรรณทัต รอง ผอ.รมน.สมุทรสาคร ,นายวิชัย แตงเอี่ยม นายกเทศมนตรี ต.ดอนไก่ดี ,สภาอุตสาหกรรมจังหวัด,สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจ.สมุทรสาคร ,สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 นครปฐม,ผู้แทนสาธารณสุข ต.ดอนไก่ดี ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน ได้ร่วมกันเข้าตรวจร้านรับซื้อของเก่าศุภานิช สว่างจันทร์ ตั้งอยู่เลขที่ 39 หมู่ที่ 5 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งมี น.ส.ศุภานิช สว่างจันทร์ เป็นเจ้าของสถานประกอบการ เนื่องด้วยก่อนหน้านี้มีผู้โพสต์ภาพลงเฟสบุ๊ค เกิดเหตุการณ์น้ำในคลองคึกฤทธิ์ ที่มีความกว้างของคลองประมาณ 2 เมตร ความยาวตรงจุดที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร โดยน้ำมีลักษณะเป็นสีชมพูเข้มแต่ไม่มีกลิ่นเหม็น ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้จากการเข้าตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าดังกล่าว ก็เจอต้นตอเข้าอย่างจัง โดยมีทั้งพลาสติกที่ได้รับการบดโม่จนเป็นเศษๆ กองตากแดดไว้จำนวนมาก และมีน้ำสีชมพูกระจายบนพื้น อีกทั้งน้ำทิ้งภายในที่ไหลลงไปสู่บ่อรองน้ำก็เป็นสีชมพูด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นต้นตอของการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในสถานประกอบการรับซื้อของเก่าประเภทกระป๋องพลาสติก เพื่อนำมาตัดโม่เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนส่งไปรีไซเคิลนั้นพบว่า ตรงบ่อน้ำขนาดใหญ่ด้านข้าง ซึ่งมีน้ำเจิ่งนองและสีของน้ำเป็นลักษณะสีชมพูแบบเดียวกับที่พบในคลองคึกฤทธิ์ และภายในสถานประกอบการยังพบชิ้นส่วนพลาสติกที่ถูกตัดย่อยเป็นชิ้นเล็กตากกองอยู่ โดยกองเศษพลาสติกนั้นมีสีชมพูแบบเดียวกับสีของน้ำในบ่อน้ำและในคลองคึกฤทธิ์ เช่นกัน

ขณะที่การตรวจระบบน้ำทิ้ง การระบายน้ำของทางสถานประกอบการรับซื้อของเก่าแห่งนี้ พบว่า ไม่มีระบบบำบัดทิ้งที่ใช้ในการล้างพลาสติกที่จะนำมาตัดโม่เพื่อส่งขาย และยังพบว่ามีคราบตะกอนสีชมพูติดอยู่ตามท่อระบาย โดยเมื่อไล่ตรวจเส้นทางท่อระบายน้ำก็พบว่าทั้งหมดไหลสู่คลองคึกฤทธิ์จริง ทั้งนี้จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดดำเนินคดีตามกฎหมาย พรบ.โรงงาน เพราะมีการนำเครื่องจักรเข้ามาใช้ในสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้ขอจดตั้งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นจึงต้องสั่งระงับการประกอบกิจการ และให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนความเสียหายเรื่องการลักลอบปล่อยน้ำทิ้งลงสู่คลองสาธารณะเจ้าหน้าที่จะนำกฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้ามาดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังจะได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น เข้าตรวจสอบซ้ำว่ามีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่

ส่วน น.ส.ศุภานิช สว่างวงศ์ ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตค้าของเก่าที่สถานประกอบกิจการดังกล่าว ระบุว่า ถังพลาสติกที่ตนเองนำมารีไซเคิลมีคนมาส่งให้โดยที่ไม่รู้ว่าภายในบรรจุสีอะไรไว้ ซึ่งเมื่อนำมาโม่บดแล้ว จึงทำให้มีสีปนเปื้อนลงไปในน้ำทิ้ง และกลายเป็นสีชมพู ส่วนน้ำที่ไหลออกไปในคลองจนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็น่าจะมาจากน้ำในบ่อพักน้ำเกิดล้นขึ้นมา โดยทางตนเองในฐานะเจ้าของก็พร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างตามที่หน่วยงานสั่ง และต้องขอโทษทุกคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น โดยที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้โรงงานแห่งนี้หยุดดำเนินกิจการและดำเนินคดีตามกฎหมายตามความผิด พรบ.โรงงานอุตสาหกรรม พร้อมทั้งให้เร่งกำจัดเศษถังพลาสติกออกไปโดยการว่าจ้างบริษัทที่รับกำจัดสารพิษนำไปทิ้งในสถานที่อันเหมาะสมต่อไป.