สาวเมืองสุราษฎร์ธานีเปิดใจครอบครัวพังต้องหย่ากับสามีหลังสั่งสินค้า "ดิไอคอนกรุ๊ป" แต่ขายไม่ได้ ต้องนำโฉนดที่ดินไปจำนองนำเงินมาลงทุน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 15 ต.ค.67 ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ศิรชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ร่วมประชุมติดตามคดีผู้เสียหายที่เกิดจากการลงทุนกับ บริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป จำกัด พร้อมกับได้เชิญผู้เสียหายจำนวน 4 รายพร้อมนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน หลังจากเกิดความเสียหายหลายล้านบาท
น.ส.สารดา วงศ์ประไพ อายุ 37 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวประมาณปี 64 โดยการพูดคุยกับแม่ทีมรายหนึ่ง และได้ปรึกษากับสามีก็ให้ลงทำดู จึงได้ตัดสินใจร่วมลงทุนครั้งแรกด้วยการสั่งสินค้ามาในราคา 2.5 แสนบาท หลังจากลงทุนไปก็อยากได้กำไรในส่วนของฟาวเดอร์เพราะจะมีกำไรส่วนต่างเพิ่มขึ้นจึงได้ ลงทุนไปอีก 1.8 แสนบาท และได้พูดคุยในกลุ่มไลน์ทางแม่ทีมก็ให้หาตัวแทนมาเพิ่มอีก และแนะนำให้ยิงแอดโฆษณา ก็ต้องออกทุนเองอีก ซึ่งตนเองต้องเสียเงินอีกนับหมื่นบาท จึงรู้สึกว่ามันไม่สมกับที่แม่ทีมพูดไว้เลย จึงได้หยุดทำเพราะสินค้าที่สั่งมาก็มีราคาแพงมาก ทำให้ขายไม่ได้จนสุดท้ายทะเลาะกับสามีจนถึงขั้นหย่าขาดกันเพราะว่าตนเองได้แอบนำโฉนดที่ดินไปจำนองเพื่อนำเงินมาลงทุนกับบริษัทดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ต้องหย่ากับสามีในที่สุด
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ศิรชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี หัวหน้าชุดสอบสวนเกี่ยวกับคดี และ พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้เรียกพนักงานสอบสวนร่วมประชุมแนวทางการรับเรื่องคดี กับผู้เสียหายที่คาดว่าจะมีมาแจ้งความอย่างต่อเนื่อง โดยกำชับให้รับเรื่องที่มีการเข้าแจ้งความไม่ว่าจะเสียหายมากหรือน้อง
ด้าน พ.ต.อ.นิพล กล่าวว่า จากคดีดังกล่าวในส่วนของ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีนั้น เบื้องต้นมีผู้เสียที่เข้ามาแจ้งความด้วยตนเองและแจ้งความในระบบออนไลน์ไว้แล้วจำนวน 11 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 2.6 ล้านบาท ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำไปแล้วจำนวน 2 ราย และในวันนี้ยังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความอีกจำนวน 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียหายจะเป็นข้าราชการบำนาญ ทั้งนี้คาดว่าจะจะมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความอีกหลายราย ซึ่งตนเองได้กำชับพนักงานสอบสวนให้รับเรื่องไว้ทุกรายเพื่อจะนำไปรวมกับทางส่วนกลางต่อไป