ทหารพร้อมดูแลครอบครัวหนุ่มร้องไห้จับใบแดง

2018-04-19 10:35:28

ทหารพร้อมดูแลครอบครัวหนุ่มร้องไห้จับใบแดง

Advertisement

เจ้าหน้าที่ทหาร สัสดี ลงพื้นที่พูดคุยกับครอบครัวหนุ่มร้องไห้จับได้ใบแดง ยายจะอยู่อย่างไร พบเป็นเสาหลักของครอบครัวรับจ้างรายได้วันละ 300 บาท “วินธัย” ยันในรั้วครอบครัวทหารยุคปัจจุบัน ทุกหน่วยจะดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกมิติ ให้ความสำคัญเสมือนญาติพี่น้องคนในครอบครัว ญาติเขาก็เหมือนญาติเรา ทางหน่วยจะมีวิธีช่วยบริหารจัดการให้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด


เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เฟซบุ๊กของ กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย โพสต์ข้อความระบุว่า “เจ้าหน้าที่ทหาร สัสดี ลงพื้นที่พูดคุยกับครอบครัวนายศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร หรือ บุคคลที่มีการถูกแชร์เรื่องราวในคลิปที่เป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ว่า จับได้ใบแดง ยายจะอยู่อย่างไร เหตุการณ์ในตอนนั้น ร้องไห้เพราะตกใจ ไปคนเดียว ไม่มีคนให้ปรึกษา ตนเองจับได้ผลัด 2 ในเดือน พ.ย. ก็จะเข้าไปทำหน้าที่ หมายเหตุรายได้ของครอบครัวได้จากนายศักดิ์ฤทธิ์ ประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นพนักงานธุรการ บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า ตั้งอยู่ถนนท่าดินแดง เขตคลองสาน รายได้วันละ 300 บาท และป้ากับยายช่วยกันร้อยพวงมาลัยแล้วให้ยายไปขายบริเวณหน้าเซเว่นอีเลฟเว่น หน้าวัดนาคปรก ซอยเพชรเกษม 23 รายได้วันละประมาณ 200 บาท เมื่อ ต.ค.-ธ.ค.2560 นายศักดิ์ฤทธิ์ เคยทำงานอยู่ที่สำนักพระราชวัง ฝ่ายสนมมีหน้าที่ในการรับเสด็จ แต่ถูกให้ออกเนื่องจากยังไม่ผ่านการตรวจเลือกทหารและบัตรเขียวถูกยกเลิก ส่วนชื่อ นพดล ที่ใช้ใน เฟซบุ๊กเป็นนามแฝงไม่มีเจตนาอย่างอื่น ปัจจุบันเลิกเรียนแล้ว เนื่องจากไม่มีเงิน





ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า จากกรณีมีการแชร์คลิปเรื่องเล่าจากเกณฑ์ทหาร หนุ่มน้ำตาตก หลังได้ใบแดง ไม่มีคนดูแลยาย ขอเรียนว่า มีพบอยู่บ่อยครั้งกรณีน้องๆ ทหารใหม่ แสดงออกถึงความกังวลเนื่องจากตนเองจะต้องเข้ามารับราชการเป็นทหารกองประจำการนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นเฉพาะในช่วงแรกๆ เท่านั้นเพราะยังไม่มีข้อมูล เรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ภายในหน่วยทหารสมัยปัจจุบัน ขอเรียนว่าในรั้วครอบครัวทหารยุคปัจจุบัน ทุกหน่วยจะมีการดูแลให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกมิติ โดยเฉพาะการให้ความใส่ใจต่อชีวิตความเป็นอยู่ภายนอกรั้วทหาร และให้ความสำคัญกับทหารทุกคนเสมือนเป็นญาติพี่น้องและคนในครอบครัว ในทำนอง “ญาติเขาก็เหมือนญาติเรา ที่ผ่านมาความกังวลในลักษณะทำนองนี้ ทางหน่วยจะมีวิธีช่วยบริหารจัดการให้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด หรือกรณีที่บางครั้งอาจจะเกิดผลกระทบบ้าง แต่ส่วนใหญ่ทุกหน่วยก็จะพยายามบริหารจัดการให้เกิดหรือมีขึ้นได้ให้น้อยที่สุด เชื่อว่าเมื่อทางหน่วยได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยแล้ว สุดท้ายอาจไม่ถึงกับต้องเสียภารกิจในทางใดทางหนึ่งไป ไม่ว่าจะภาระทางราชการ หรือ ภาระทางครอบครัว ที่จะมีเพื่อนทหาร และผู้บังคับบัญชาไปร่วมกันดูแล หรือบางกรณี ทางหน่วย สามารถพิจารณาเสนอขอใช้ ระเบียบการขอลาดูแลบุพการี ได้ถ้าจำเป็นจริง