"แหม่ม - โก้" เล่าย้อนจุดแตกเปิดวอร์หักทะเลาะไม่คุยกันนาน 15 ปี

2024-10-15 10:00:29

"แหม่ม - โก้" เล่าย้อนจุดแตกเปิดวอร์หักทะเลาะไม่คุยกันนาน 15 ปี

Advertisement

"แหม่ม - โก้" เล่าย้อนจุดแตกเปิดวอร์หักทะเลาะไม่คุยกันนาน 15 ปี



เรื่องราวความบาดหมางระหว่าง "แหม่ม วิชุดา พินดั้ม" และ "โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา" เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในวงการบันเทิงไทย โดยทั้งสองคนเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่เกิดความขัดแย้งรุนแรงจนทำให้ไม่พูดคุยกันเป็นเวลานานถึง 15 ปี




โก้ ธีรศักดิ์ ได้เล่าย้อนถึงจุดแตกหักระหว่างเขาและแหม่ม วิชุดา ว่ามาจากการที่ทั้งคู่มีการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน มีความเข้าใจผิดและการกระทำที่ทำให้เกิดความไม่พอใจกัน ทั้งนี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานถึง 15 ปี แต่ความรู้สึกผิดหวังและความบาดหมางนั้นยังคงมีอยู่จนกระทั่งทั้งสองได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง

แหม่ม วิชุดา ก็ได้เผยความรู้สึกของเธอว่า เธอเองก็รู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่การทะเลาะกันครั้งนั้นก็เป็นบทเรียนที่ทำให้เธอได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น หลังจากที่เวลาผ่านไป ทั้งคู่ได้มีโอกาสกลับมาคุยกันและเคลียร์ใจกัน ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถกลับมาสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้



เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารและการเข้าใจกันในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคู่ชีวิต



งานนี้ทั้งคู่ได้ลงดีเทลเรื่องทะเลาะกันให้ฟังว่า ...



ทะเลาะกัน 15 ปี ไม่คุยกัน?
โก้ : ไม่อยากเชื่อเหมือนกันนะว่าพวกเราจะได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง เพราะไม่คุยกันนานถึง 15 ปีแล้ว

เริ่มตอนไหน?
โก้ : น่าจะ 17 ปีที่แล้ว สมัยออกพ็อกเก็ตบุ๊ก ที่ดาราออกพ็อกเก็ตบุ๊กของตัวเอง เราก็บอกว่าแหม่ม เดี๋ยวขึ้นไปเป็นพิธีกรให้หน่อยนะ แหม่มก็บอกว่าพิธีกรอะไร เป็นไม่ได้ ไม่พร้อม ทำไมไม่บอกก่อน

แหม่ม : อยู่ๆ เรียกมัดมือชกได้ไง ทำไมไม่บอกก่อน



โก้ : จากนั้นก็มีเสียงข้างหลังเป็นซุปตาร์ข้างหลังบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเป็นแทนให้ก็ได้ หันไปคือเก๋ ชลลดา (หัวเราะ) เขาเห็นเราสองคนทะเลาะกัน แหม่มหันมาปุ๊บ บอกว่ามีพิธีกรแล้วใช่มั้ย ก็สะบัดลุกกลับบ้านเลย

อารมณ์นั้นที่พูดกับโก้ พูดแซวเล่นหรือคิดจริงจัง?
แหม่ม : สมัยก่อนพี่ไม่เหมือนตอนนี้ เมื่อ 17 ปีก่อน

โก้ : (หัวเราะ) หนักกว่าหนิงเยอะ หนิงเรียบร้อยไปเลย



แหม่ม : สมัยก่อนพี่เฟียสมาก สุดๆ ปวดหัวมาก พี่ก็เป็นคนเดาใจไม่ถูก พี่รู้สึกว่าอ้าว มาตั้งนานแล้วทำไมไม่บอก ถ้าบอกจะได้ขึ้นให้ อยู่ๆ มาบอกตอนนี้ ไม่ขึ้น เพื่อนสนิทมีสิทธิ์ทำทุกอย่างกับเพื่อนแบบนี้เหรอ ตอนนั้นคิดแบบนั้น ฉันเป็นเพื่อนเธอ เธอควรรู้นิสัยฉัน ว่าฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้ เธอก็ควรบอกฉันก่อนก่อนให้ฉันทำอะไรตอนนั้นคิดแบบนี้ พอรู้ว่ามีคนทำให้แล้วก็โอเค ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วนี่ ก็กลับเลย

จบงานควรคุยกัน แล้วเกิดอะไรขึ้นทำไมไม่เคลียร์?
โก้ : ก็ไม่คุยกันเลย หลังจากนั้นก็เดินแยกทางกันที่เมเจอร์รัชโยธิน ต่างคนต่างเงียบ ไม่คุยกัน เราไม่ใช่เพื่อนที่เวลาทะเลาะกันแล้วมาด่ากันนะ ออกมาเล่าเรื่องของความไม่ดีคนนั้นคนนี้ ต่างคนต่างเงียบไม่อยากพูดถึงกันและกัน

พี่โก้รู้สึกน้อยใจ?
โก้ : น้อยใจมาก เขาออกฤทธิ์ออกเดชกับคนรอบข้างอยู่แล้วเยอะแยะ เราไม่คิดว่าเราที่เป็นคนสำคัญที่สุดในโมเมนต์นั้นของเขา เขาจะทำกับเราได้ ตอนนั้นเศร้าและเสียใจมาก กลางปีแหม่มเขาออกพ็อกเก็ตบุ๊กของเขา ที่ถักโครเซอะไรของเขา เราก็บอกว่าแหม่มถ้าสิ้นปีพี่ออกพ็อกเก็ตบุ๊กของพี่ แหม่มมาเป็นพิธีกรให้พี่บ้างนะ แค่นั้นเอง พอปลายปี เราก็ว่าเราย้ำบอกเขาแล้วนะ ไม่รู้เขาไปเดินสะดุดหกล้ม หรือใครไปทำของใส่เขาหรือเปล่า เขาตีเบลอ แต่เรื่องตีเบลอกับแหม่มเป็นเรื่องปกติ ที่เล่นในเป็นต่อบางทีเป็นนิสัยเลย ดูสมบทบาท คาแรกเตอร์กวนประสาท แต่ก่อนหนักกว่านี้อีก



กี่เท่า?
โก้ : โอ้โห เป็นร้อย ไปงานไหนเราต้องคอยเป็นห่วงว่าแหม่มจะเหวี่ยงใครหรือเปล่า ซึ่งแหม่มเหวี่ยงทุกคน ยกเว้นเรา เราไม่คิดว่าเหตุการณ์วันนั้นแหม่มจะมาเหวี่ยงใส่คนที่คิดว่าเหลือคนสุดท้ายแล้วนะ คนสุดท้ายที่ยืนข้างแหม่ม แหม่มยังจะเหวี่ยงอีกเหรอ

ร้องมั้ย?
โก้ : ไม่ร้อง แต่เสียใจมาก เหมือนคนเฮิร์ต ผิดหวัง โอ้โห นี่คือเพื่อน น้อง คนที่เรารักขนาดนี้

แหม่ม : เธอคิดกับฉันมากกว่านั้นแหละ เธอถึงได้เสียใจขนาดนั้น

โก้ : เราเสียความรู้สึกกับการเหวี่ยงของเขา

แหม่ม : จะบอกว่าวันนั้นมุมพี่ก็รู้สึกว่าพี่ไปก่อนใครเพื่อนเลยนะ ไปเร็วเพราะคิดว่าจะให้ทำอะไรหรือเปล่า ก็รีบไป ระหว่างนั้นรู้ว่าพี่โก้ยุ่ง แต่ไปตั้งแต่งานยังไม่เริ่มหลายชั่วโมงมาก บอกตอนนั้นจะได้เตรียมตัว เพราะพี่ไม่ถนัดทำพิธีกร เป็นพิธีกรไม่เป็น พี่ก็คิดว่ามีอะไรให้ทำมั้ย ไม่มีเหรอ ก็เตร็ดเตร่ไปแถวนั้น พอเวลามาบอกหน้างาน เราก็รู้สึกว่า อ้าว อะไรวะเนี่ย

โก้ : อย่ามา พิธีกรก็เป็นอยู่แล้ว ไม่ได้ยากเลย

แหม่ม : ถึงบอกไงว่าเป็นเรื่องของการไม่สื่อสาร บวกกับพี่เป็นคนแบบนั้นด้วย เป็นคนเรื่องมาก

ก่อนกลับมีการเหวี่ยงใส่พี่โก้ว่าให้คนกลางมาเคลียร์?
โก้ : โก้มีคนกลางคือแวร์โซว ตอนนั้นสนิทรุ่นๆ กัน ก็บอกแวร์โซวว่าไปบอกแหม่มให้มาขอโทษ แล้วจะยกโทษให้ ให้แวร์ไปเคลียร์เลย เพื่อนทุกคนก็เห็นหมด แล้วมันไม่ได้เลิกคบกับเราคนเดียวนะ มันเลิกคบกับคนทั้งกลุ่มเลย (หัวเราะ) มันเลิกคบทุกคนที่อยู่รายล้อมเราหมดเลย

แหม่ม : ไม่เป็นไร เราอยู่คนเดียวได้

โก้ : เขาเลิกคบกับคนอื่น คนอื่นยังอยู่ปกติ แต่นี่ไม่คุยกับคนอื่นเลย ใครเป็นเพื่อนโก้เหรอ ไม่คบ ไม่คุย

พี่แวร์สื่อสารยังไง?
แหม่ม : พี่แวร์บอก แหม่ม น้องโทรไปคุยกับพี่โก้นะ พี่โก้ไม่มีอะไรเลย แค่ไปขอโทษกับเขา พี่แวร์พูดดี พี่โก้เขาก็จะหายโกรธ เขารออยู่ เราก็บอกว่าขอโทษแล้วไง ต้องกลับมาเจออะไรแบบนี้อีกเหรอ ถ้าหนูเป็นคน... ก็ไม่ต้องคบหนู ตอนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี ถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องคบ

ผ่านพี่แวร์ไป พี่นุ๊กมากราบกรานขอร้องให้ไปขอโทษพี่โก้ แหม่มก็ยังไม่ลงอีกเหรอ?
แหม่ม : ไปแข่งเกมโชว์ที่อินเดียกับพี่นุ๊ก เขาบอกว่าจะไม่มีความสุขเลยในทริปนี้ ถ้าเธอไม่รับปากฉันหนึ่งเรื่อง เพราะตอนนี้ฉันจะคุยกับเธอลำบากแล้ว ถ้าเธอไม่คุยกับพี่โก้ กลับไปขอโทษกับพี่โก้นะ สัญญาได้มั้ย ก็บอกว่าได้ กลับไปเดี๋ยวจะขอโทษพี่โก้เลย ไม่ต้องห่วง ระหว่างอินเดียก็มีความสุขกันมา พอลงเครื่องบินปุ๊บกำลังจะแยกย้าย ก็บอกว่าที่รับปากไว้ไม่ทำนะ

โก้ : เข้าใจหรือยัง (หัวเราะ)



พี่นุ๊กเป็นคนกลางเขาไม่งงเหรอ?
แหม่ม : ไม่ได้ทะเลาะกับนุ๊ก แต่ก็ไม่ได้คุยด้วย เขาลำบากใจไง ถ้าเป็นเพื่อนพี่โก้ แล้วเป็นเพื่อนพี่ด้วย ก็ไม่ต้องลำบากใจ ไม่ต้องคุยกับพี่ค่ะ

พี่ทิ้งเหตุการณ์ผ่านไป 15 ปีได้ยังไง?
โก้ : ระหว่างทางมันมีนะ อย่างเช่นเราต้องไปอัดรายการแล้วเขาเป็นพิธีกร ไหนบอกเป็นพิธีกรไม่ได้ (หัวเราะ) เราต้องไปขายของของเรา ก็คุยกับเขาเหมือนไม่เคยทะเลาะ แต่พอคัตก็แยกกันเลย แต่ก็ไม่พูดกับใครนะ แล้วไม่มีคนรู้ว่าโก้กับแหม่มตีกันอยู่ เราเดอะโชว์มัสโกออน ศัพท์บ้านๆ คือเฟก

แหม่ม : สำหรับเธอคือเฟก แต่สำหรับฉันคือแยกแยะ (หัวเราะ)

โก้ : ยังมีอีก สวรรค์เหมือนจะทดสอบ อยู่ดีๆ กลับบ้าน เฮ้ยแหม่มมาทำอะไรที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรา มีกองละครที่เขาเล่นอยู่ มาเล่นที่บ้านเรา เราก็ไปแยกแยะกับเขา สบายดีมั้ย (หัวเราะ) แต่ผ่านไปร่วม 10 ปีแล้วนะ ก็แยกแยะ จบ ไม่คุยกันอีกเลย

โมเมนต์ไหนทำให้กลับมารักกันได้?
โก้ : จริงๆ เรารักกันอยู่แล้วแหละ ทุกเหตุการณ์เราดูส่องแหม่มออกทีวี เราดูตลอด เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวโดนของ ใจนึงเราเป็นห่วง แต่เรารู้จักแยกแยะ (หัวเราะ) ก็คิดว่ายังไม่ถึงเวลา ต่างคนต่างไปมีสังคมใหม่ๆ กันแล้ว จนสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีคอนเสิร์ตที่มีพี่นุ๊ก ลิฟท์-ออย เราก็ไปดูคอนเสิร์ตแล้วไปฝั่งนุ๊กตอนเลิกก็ไปหลังเวที เปิดไปห้องศิลปิน อ้าว เจอแหม่มอยู่ในห้อง

แหม่ม : เขารู้ว่าฉันอยู่ เขาจะมาหาฉัน เขารักฉัน

ทำไมวันนั้นไม่ใช้คำว่าแยกแยะ?
โก้ : วันนั้นไม่รู้จะก้าวหรือถอยดี เพราะเปิดเข้าไปแล้ว ก็เลยเดอะโชว์มัสโกออน เดินเข้าไป แต่ก็มีพี่มาบอกว่า เนี่ย จริงๆ แหม่มอยากคุยกับโก้มากเลยนะ เขารักโก้มากเลย มีอะไรก็เคลียร์ๆ กันซะ เราก็คิดว่านี่งานบันเทิงเนอะ ทำไมต้องมาเคลียร์กันหลังเวที นางก็เดินเข้ามาแล้วร้องไห้เลยจ้า เราก็เอาแล้วสิ

แหม่ม : หนูรักพี่โก้ หนูขอโทษ

โก้ : ศิลปินอาร์เอสก็งงหมดเลย ว่าเกิดอะไรกับสองคนนี้ เพราะมันผ่านไป 15 ปีแล้ว ไม่มีคนรู้เพราะเราไม่ได้พูดถึง เขาก็อธิบายว่าเขาเป็นแบบนี้ๆ เราก็โอเค ไม่มีอะไร มันผ่านไปแล้วเนอะเชื่อมั้ยตอนเราดีกัน เราไม่เคยเท้าความเหมือนที่เราพูดเมื่อกี้เลย เราจะไม่พูดเรื่องอดีตว่าเคยทะเลาะกันเรื่องอะไร คิดแค่ว่าถ้าถึงจุดที่เราดีกันแล้ว อดีตไม่ต้องพูดถึง เราสู้มาพูดในรายการและทะเลาะในรายการดีกว่า (หัวเราะ)

แหม่มร้องไห้ บอกว่ารวบรวมความกล้าในการเดินไปหาพี่โก้ แสดงงว่าที่ผ่านมารู้สึกผิดมาตลอดเหรอ?
แหม่ม : ไม่เลย ไม่รู้สึกผิดเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่พี่แค่รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา พี่ก็ไม่ได้เตรียมตัวมา แต่เห็นหน้าพี่โก้แล้วก็คิดว่าวันนี้แหละ ที่จะเดินไปหาแล้วบอกว่าหนูขอโทษ มันมาเองนะ เป็นความรู้สึกว่าวันนี้ไม่ฝืนใจ รู้สึกว่าขอโทษได้ ไม่ต้องมีใครบังคับ ไม่ต้องมีใครพูดอะไรเลย อยากเดินเข้าไปกอดเขา คิดถึงเขาจริงๆ



หวั่นใจมั้ยเขาอาจไม่คุยกับเรา?
แหม่ม : ไม่ พี่มั่นใจว่าเขารักพี่

ผ่านไป 15 ปี อยู่ๆ มาขอโทษ ให้อภัยเลย หรือในใจรู้สึกยังไง?
โก้ : ไม่หรอก เป็นคนมีมูลนิธิเป็นของตัวเอง พาคนไปบวชเณรที่ประเทศอินเดีย เป็นคนที่ช่วงหลังฝักใฝ่ธรรมะ ก็เลยรู้สึกว่าการให้อภัยที่ดีที่สุดคือการอภัยทาน (หัวเราะ) ไม่มีศัตรูดีที่สุด แล้วมันผ่านไปนานมากแล้ว จนเรามาเจอแบบแยกแยะกันได้ ไม่ต้องมาเคลียร์อะไรกัน แต่วันนั้นในเมื่อเขาอยากเคลียร์ คุยกัน มีคุณนุ๊กเป็นตัวกลาง ที่อยากให้เพื่อนดีกัน เพราะเขาทำตัวลำบาก ไม่สามารถรวมกัน 3 คนได้

ประโยคแรกที่คุยกัน?
โก้ : ประโยคร้องไห้แล้วคุยกันนี่แหละ

แหม่ม : แต่ก็พูดไปเรื่อยเปื่อย

โก้ : พูดจนคนหลังเวทีงง จนคอนเสิร์ตเลิก เขากลับบ้านกัน มันก็ยังนั่งคุยอยู่อย่างนี้

ปลดล็อกทั้งคู่?
โก้ : ไม่ได้ปลดล็อกซะทีเดียว การที่เพื่อนทะเลาะกันแล้วจะกลับมาดีกัน มันไม่ใช่แค่ขอโทษแล้วจบนะ บางทีต้องสะสางด้วยเวลา นุ๊กด้วยคนกลาง ก็พยายามจับมากินข้าวด้วยกันเดือนละหนึ่งครั้ง เราก็ทำแบบนี้สม่ำเสมอร่วมปี โดยมีตติ้งแรกคือวันเกิดแหม่ม เราเตรียมของขวัญวันเกิดให้เขา ขณะเดียวกันเขาก็เตรียมของขวัญย้อนหลังวันเกิดให้เรา จริงๆ แหม่มเป็นคนน่ารักมากเลยนะ พูดแล้วอยากร้องไห้ แหม่มน่ารักมาก นิสัยดีมาก เป็นคนที่แคร์สุดๆ เตรียมของมาให้ ทำโน่นทำนี่ ของที่เขาประดิษฐ์แฮนเมด เป็นคนรายละเอียด แต่เขาเป็นคนอารมณ์อาร์ติสต์ เลิกทำแล้วไม่มีอารมณ์ เขาก็จะไม่เฟก ก็เลิกทำไปเลย

แหม่ม : ไม่รักษาน้ำใจใครเลย

เป็นคนซื่อสัตย์กับความรู้สึก?
โก้ : แต่ก็ไม่ควรทำบ่อย (หัวเราะ)

พี่โก้มีของขวัญเซอร์ไพรส์พี่แหม่ม?
แหม่ม : เฮ้ย พี่โก้ ตุ๊กตาหนู หนูทำผมเอง หนูให้พี่โก้เหรอ

โก้ : แหม่มให้ 15 ปีที่แล้ว แหม่มเขาถักเอง เวลาของขวัญวันเกิด แหม่มขัดนิตติ้งผืนเบ้อเริ่มให้ ผ้าพันคอให้ ถักเนคไทให้ เรียกว่าเลิกคบไป 15 ปี เราก็ขาดของพวกนี้ไปเยอะเลย ไม่ได้ของอะไรอีกเลย อันนี้เอามาให้ดู แต่ล่าสุดเขาก็เอาลาบูบู้มาให้เรา แกะแล้วติดกระเป๋าเราเลย กลัวเราเอาไปให้คนอื่นต่อ (หัวเราะ)

แหม่ม : ไม่คิดว่าเธอจะเก็บไว้ เธอเก็บไว้อย่างดีเลย รู้สึกดี พี่รักพี่โก้มากๆ เลย ไม่ว่าพี่โซแซดแบดถั่วขนาดไหน ต่อให้ติสต์คนอื่นไม่เข้าใจขนาดไหน พี่โก้จะเป็นคนออกรับแทนพี่ตลอดเวลา ตามล้างตามเช็ดทุกอย่าง พี่เกเรแค่ไหน พี่ทำอะไรแค่ไหน พี่โก้เอ็นดูและเมตตา เข้าใจพี่ เป็นคนเดียว มีนุ๊กที่เข้าใจพี่อีกคน แต่พี่โก้ ต่อให้เขาไม่เข้าใจ เขาก็จะพยายามเข้าใจ ใช้คำนี้ดีกว่า

พี่โก้เลือกยอมพี่แหม่ม?
แหม่ม : พี่โก้เขารักพี่



มีช่วงนึงพี่แหม่มโดนทำของหนักมาก จริงมั้ย ที่ช่วงนึงพี่แหม่มดูเพี้ยนๆ?
แหม่ม : ได้ยินจากวงในมาแน่ๆ ช่วงกำลังเพี้ยนๆ ใส่พี่โก้

โก้ : แหม่มเขาป่วงไปป่วงมา ดูไม่เหมือนแหม่ม ใครจะคบก็คบ มันไม่ไหวจริงๆ มันป่วงมาก

แหม่ม : อาการพี่ผิดปกติ ตอนนั้นเลิกคบกับทุกคนไปแล้ว ไม่เหลือใคร พี่รู้สึกว่าความเหวี่ยงของเราไม่ใช่สิ่งผิดปกติสำหรับเรา แต่อาการผิดปกติคือจะมีช่วงที่หัวใจเต้นแรงเหมือนใจจะหลุดออกมาจากอก ไม่ได้โมโห แต่ไม่สบายตัว อยากไปหาตลอดเวลา

หาคนที่ทำ?
แหม่ม : ใช่ เกือบตาย เพี้ยนมากเลยตอนนั้น

รู้แน่ๆ โดนทำของจากสิ่งไหน?
แหม่ม : น้องคนนึงบอกว่าพี่โดนทำของ เพราะพี่มีอาการผิดปกติ น้องบอกว่าพี่โดนแน่ๆ แต่ไม่กล้าพูด เลยพาหนูไปสถานที่นึง เหมือนสำนักๆ นึง แล้วนั่งสวดทุกวันพระ เขาบอกแล้วแต่คน ถ้าหมดกรรมเร็วก็หายเร็ว บางคนอาจหายช้าเป็นปี ของพี่ออกไปช่วงวันพระใหญ่ ไม่กี่เดือน

อาการที่ออกไปแล้วโดนทำของ?
แหม่ม : เวลาคนอื่นไปทำก็จะมีพวกตะปูออกมา แต่ของพี่ไม่มีอาการนั้น เป็นอาการเหมือนเวลาสวด เท้าพี่เวลาตั้งอยู่ จะเหมือนคนเต้นบัลเล่ต์ ฝืนเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น เป็นคนไม่ค่อยมีสติ พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอเขาบอกว่าออกไปแล้ว ซึ่งพี่ก็ไม่รู้สึกว่าออก แต่ไม่มีอาการแบบนั้นอีกเลย มีสติมากขึ้น อธิบายไม่ถูก กลับมาเป็นคนปกติ แล้วก็ไม่อยากไปหาคนนั้นแล้ว รู้สึกว่าชอบเข้าไปได้ยังไง