มีความผิดไหมหากใครไม่ยอมเป่าวัด "แอลกอฮอล์" ?

2024-10-11 12:35:17

มีความผิดไหมหากใครไม่ยอมเป่าวัด "แอลกอฮอล์" ?

Advertisement

มีความผิดไหมหากใครไม่ยอมเป่าวัด "แอลกอฮอล์" ? และกับกรณี "ติ๊ก ชิโร่" ล่ะ ทำไมถึงไม่ได้ตรวจในจุดเกิดเหตุ ?



จากเหตุการณ์อุบัติเหตุศิลปินชื่อดัง "ติ๊ก ชิโร่" ขับรถตู้หรูชนรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิต 1 ศพ บริเวณสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ เขตสายไหม โดยนักร้องดังได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกิดเหตุ และมีการนำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาล หลายคนจึงเกิดคำถามว่าทำไมไม่เป่าวัดแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุทันที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้อธิบายว่า "ติ๊ก ชิโร่" มีอาการเจ็บหน้าอก ทำให้ไม่สามารถเป่าตรวจแอลกอฮอล์ได้ตามปกติ จึงต้องนำตัวไปตรวจโดยการเจาะเลือดที่โรงพยาบาลแทน






โดยการตรวจหาแอลกอฮอล์ในร่างกายโดยการเจาะเลือดนั้น จะใช้เวลาในการทราบผลประมาณ 3 วัน ซึ่งวิธีการนี้มักใช้ในกรณีที่ผู้ต้องหามีอาการบาดเจ็บหรือมีเหตุผลที่ไม่สามารถเป่าลมหายใจเพื่อตรวจวัดได้ในทันที การที่ "ติ๊ก ชิโร่" ไม่ได้เป่าตรวจในที่เกิดเหตุนั้น ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจที่จะหลบหนีการตรวจ แต่เป็นเพราะเหตุผลทางสุขภาพ นอกจากนี้ เขายังไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือปฏิเสธความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่ชาวโซเชียลบางส่วนกล่าว





ในทางกฎหมาย ผู้ที่ปฏิเสธการเป่าวัดแอลกอฮอล์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจะถูกถือว่ามีความผิดตามมาตรา 142 ของกฎหมายจราจรทางบก พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 154 (3) ความผิดกรณีฝ่าฝืนไม่ยอม ทดสอบตามคําสั่งเจ้าพนักงานจราจร ( ความผิดในกรณีไม่ยอมเป่าเครื่องเป่า) ผู้ใดฝ่าฝืนคําสั่งหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานจราจร ตามมาตรา 142 วรรคสอง ถ้าไม่เป็นความผิดที่กําหนดโทษไว้แล้วใน พ.ร.บ.จราจรทางบก ต้องระวางโทษปรับครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท ไม่ว่าจะเป็นค่าปรับหรือการถูกฟ้องคดี อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีเหตุผลทางสุขภาพหรือความจำเป็นอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถเป่าได้ เจ้าหน้าที่สามารถใช้วิธีการตรวจทางการแพทย์เช่นการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาแอลกอฮอล์ในร่างกายแทน





สำหรับกรณีของ "ติ๊ก ชิโร่" เนื่องจากมีการเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ การตรวจสอบทางกฎหมายจะรอผลจากโรงพยาบาล ซึ่งจะใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ การที่เขาไม่ได้เป่าที่เกิดเหตุนั้น ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหลบเลี่ยงความรับผิด แต่เป็นไปตามขั้นตอนที่เหมาะสมตามสภาพการณ์ ซึ่งต้องรอผลที่ชัดเจนต่อไป.