กทม. เตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือ น้ำหนุน น้ำฝน ขอชาวกรุงมั่นใจน้ำไม่ข้ามแนวเขื่อนป้องกันริมเจ้าพระยา เตือนอย่าหลงเชื่อข่าวบิดเบือน
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 67 นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร นายเจษฎา จันทรประภา ผอ.สำนักการระบายน้ำ ร่วมแถลงถึงความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือ น้ำหนุนของกรุงเทพมหานคร พร้อมนำสื่อมวลชนสำรวจการเตรียมพร้อมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด
จากสถานการณ์พื้นที่ทางภาคเหนือมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ทำให้เกิดน้ำท่วม และส่งผลกระทบให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กรุงเทพมหานครได้มีการติดตามสถานการณ์และประสานข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อยู่ตลอดอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานครได้
สำหรับสถานการณ์น้ำเหนือ ใน 4 เขื่อนหลัก (ภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อย ป่าสักฯ) มีปริมาณน้ำกักเก็บ 81% ยังสามารถรองรับน้ำได้เพิ่มอีก แต่ต้องคอยเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำที่ระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และการบริหารจัดการของกรมชลประทาน
ส่วนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ก่อนเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 10 ต.ค.67 มีปริมาณน้ำผ่าน จ.นครสวรรค์ 2,338 ลบ.ม./วินาที (เพิ่มขึ้น 20 ลบ.ม./วินาที) ปริมาณการระบายสูงสุดที่แม่น้ำรับได้ 3,660 ลบ.ม./วินาที มีปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,199 ลบ.ม./วินาที (ทรงตัว) ปริมาณการระบายสูงสุดที่แม่น้ำรับได้ 2,730 ลบ.ม./วินาที และมีปริมาณน้ำผ่านจุดวัดน้ำบางไทร 1,830 ลบ.ม./วินาที (เพิ่มขึ้น 39 ลบ.ม./วินาที) ซึ่งวันเดียวกันนี้เมื่อปี 54 ปริมาณน้ำที่บางไทรอยู่ที่ 3,288 ลบ.ม./วินาที โดยปริมาณน้ำผ่านจุดวัดน้ำบางไทรที่กรุงเทพมหานครต้องเฝ้าระวัง คือ 2,500 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้วางมาตรการรับมือน้ำให้กับชาวกรุงเทพมหานคร คือ 2 มาตรการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำเหนือ-น้ำหนุน ประกอบด้วย 1. ตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วม 2. การเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และ 3 มาตรการพร้อมรับสถานการณ์น้ำฝน ประกอบด้วย 1. ลดระดับน้ำรองรับสถานการณ์ฝน 2. เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ 3. เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่
โดย 3 มาตรการรับสถานการณ์น้ำฝน ประกอบด้วย 1. ลดระดับน้ำรองรับสถานการณ์ฝน โดยควบคุมระดับน้ำในคลอง แก้มลิง และ Water Bank 2. เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ อาทิ สถานีสูบน้ำ บ่อสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ ขุดลอกคลอง 225 กม. และเปิดทางน้ำไหล 2,036 กม. แล้วเสร็จ 100% ล้างทำความสะอาดท่อกว่า 4,300 กม. แล้วเสร็จ 99% และ 3. เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ อาทิ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าถาวร รถโมบายยูนิต เครื่องสูบน้ำชนิดต่าง ๆ และหน่วย Best เป็นต้น
จากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในโลกออนไลน์ว่ากรุงเทพมหานคร จะมีพื้นที่เขตใดที่น้ำไม่ท่วม เขตใดเสียหายบางส่วนจากน้ำเจ้าพระยาขึ้น-ลง เขตใดเสียหายบางส่วนจากน้ำเหนือ หรือเขตใดจะรับผลกระทบบ้างนั้น กรุงเทพมหานครขอย้ำว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ สำหรับชุมชนนอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่ ประกอบด้วย เขตดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา บางกอกน้อย และเขตคลองสาน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชุมชนหากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูง นอกจากนี้ได้สั่งการสำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำรวจพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างทันท่วงที สำหรับประชาชน สามารถติดตามสถานการณ์น้ำและฝนจาก กทม. ได้ที่ Website: http://dds.bangkok.go.th/ หรือ www.prbangkok.com Facebook: @BKK.BEST หรือ กรุงเทพมหานคร Twitter (X): @BKK_BEST กรุงเทพมหานคร
นอกเหนือจากการแจ้งเตือนของกรุงเทพมหานคร ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถติดตามสถานการณ์น้ำแบบ Real Time ได้ที่ Website: สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) https://tiwrm.hii.or.th/DATA/REPORT/php/chart/chaopraya/small/chaopraya.php ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเหตุน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ โทร. 1555 หรือศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำ โทร. 0 2248 5115 หรือแจ้งผ่านระบบทราฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue)