นายกรัฐมนตรีประชุมขันนอตความปลอดภัยทางถนน สั่งทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบสภาพรถ สร้างความมั่นใจต่อประชาชน
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.67 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันนี้ เวลา 10.40 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเรื่องความปลอดภัยทางถนน โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนการประชุมว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ต.ค.67 เป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ ทำให้รัฐบาลต้องกลับมามองทุกกรอบอีกครั้ง โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งกฎหมายหลายฉบับที่ไม่ทันสมัย ต้องมีการพูดคุยหารือเพื่อปรับแก้กฎหมาย ข้อบังคับใช้ ต่าง ๆ ให้เข้ากับยุคสมัยเป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงศึกษาธิการ ต้องการพูดคุยกันในวันนี้ ทั้งการบังคับใช้ในทุกเรื่อง ทั้งนี้มีข้อเสนอเกี่ยวกับรถบัสว่าควรมีการแนะนำเหมือนการโดยสารบนเครื่องบินว่าทางออกไปทางไหน ใช้ อุปกรณ์นั้นความปลอดภัยต่างๆ อย่างไร โดยในโซเชียลก็มีการนำเสนอเรื่องการแนะนำประตูทางออกฉุกเฉินที่ค่อนข้างดี ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลองศึกษาและดูตัวอย่างที่ประชาชนเสนอแนะมาถือว่าได้ประโยชน์
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า อยากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน โดยเฉพาะโครงการร่วมกับทางสหประชาชาติหรือยูเอ็น คือ Mr. Jean Todt ในนาม UN Special Envoy for Road Safety ที่จะเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้เห็น ถึงการคมนาคม การใช้รถใช้ถนน ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ผู้ประกอบการที่เป็นภาคเอกชน จะได้บอกได้ว่าปัญหาจริง ๆ ที่พบคืออะไร ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างไร หรือมองเห็นสิ่งที่จะพัฒนาร่วมกันได้อย่างไร
นายจิรายุ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมที่ได้ตั้งคณะกรรมการฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหายกระดับรถโดยสารสาธารณะอย่างเร่งด่วนภายใน 15 วัน พร้อมทั้งมอบหมายกรมการขนส่งทางบกเรียกตรวจสอบสภาพรถโดยสารสาธารณะที่ติดตั้งแก๊ส NGV ซึ่งจากข้อมูล มีทั้งหมด จำนวน 13,426 คัน ประกอบด้วย รถบัสจ้างเหมา จำนวน 1,336 คัน รถบัสประจำทาง จำนวน 5,967 ค้น และรถตู้/รถมินิบัส จำนวน 6,123 คัน หากพบสภาพไม่พร้อมใช้งานให้สั่งห้ามการนำรถออกใช้งาน หากพร้อมใช้งานให้ออกหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการตรวจสอบต้องตรวจสอบอย่างละเอียด คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ทั้งนี้นายกฯศ ขอให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสภาพรถ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อประชาชน และสร้างความปลอดภัยต่อการใช้รถใช้ถนน