ศาลออกหมายจับ "พล.อ.พิศาล" คดีตากใบ ชี้พฤติการณ์หลบหนีไม่มาศาลตามกำหนด
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 67 ศาลจังหวัดนราธิวาสพิจารณาคดีความอาญา ระหว่าง น.ส.ฟาดีฮะห์ ปะจูกูเล็ง โจทก์ที่ 1 กับพวกรวม 48 คน ฟ้อง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.) จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 9 คน เนื่องด้วย พล.อ.พิศาล ถูกต้องหาว่ากระทำความผิดต่อชีวิต พยายาม ความผิดต่อเสรีภาพ ในคดีตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 พร้อมมีหลักฐานว่าน่าจะกระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี และน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่า จะหลบหนี อีกทั้งยังหลบหนีไม่มาศาลตามกำหนดนัด เพราะฉะนั้นจึงมีคำสั่งออกหมายจับจำเลยที่ 1 พล.อ.พิศาล
โดยศาลพิเคราะห์แล้ว วันที่ 12 ก.ย. 67 จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็น ส.ส.ไม่มาศาล แม้ในวันนัดจะมีการประชุมสภา แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้เข้าร่วมการประชุมด้วย การพิจารณาคดีของศาลในวันดังกล่าว จึงไม่เป็นการขัดขวางต่อการที่จำเลยที่ 1 จะไปประชุมสภา เมื่อจำเลยที่ 1 ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง และไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดี ถือได้ว่ามีพฤติการณ์หลบหนี ให้ออกหมายจับจำเลยที่ 1 เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีภายในอายุความ 20 ปี นับแต่วันกระทำความผิด คือ ภายในวันที่ 25 ต.ค. 67 ศาลสั่งด้วยว่าการดำเนินการตามหมายจับ ให้ตำรวจศาลเป็นผู้จัดการตามหมายจับได้ และเห็นสมควรให้พนักงานฝ่ายปกครอง และตำรวจเป็นผู้จัดการตามหมายจับด้วย โดยมีตำรวจศาลเป็นผู้สนับสนุน ตาม พ.ร.บ.เจ้าพนักตำรวจศาล พ.ศ. 2562 มาตรา 5 (5)
อนึ่ง เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการของศาลยุติธรรมและความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับเรื่องความคุ้มกันของ ส.ส.หรือ ส.ว.ในชั้นพิจารณาเห็นสมควรให้งานสารบรรณมีหนังสือถึงสำนักงานศาลยุติธรรม แจ้งข้อเท็จจริงตามที่สภาผู้แทนราษฎรมีหนังสือตอบกลับมาว่า ระหว่างสมัยประชุม ส.ส.และ ส.ว.ไม่มีความคุ้มกันในชั้นพิจารณา รวมถึงกรณีการจับกุมและกุมขังในคดีอาญาด้วย