"สุริยะ" ผุด 5 มาตรการเข้ม สั่งกรมการขนส่งทางบกตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะภายใน 60 วัน อายุเกินไม่ต่อให้เด็ดขาด
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 2 ต.ค.67 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กทม. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี แล รมว.คมนาคม กล่าวถึงเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนเกิดเหตุเพลิงไหม้ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีข้อสั่งการดังนี้ 1. กรมการขนส่งทางบก เรียกรถโดยสารสาธารณะประจำทางและไม่ประจำทางที่ใช้ เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดเข้ารับการตรวจสภาพรถ จำนวน 13,426 คัน ภายใน 60 วัน 2.ให้ยกระดับมาตรฐานการประกอบการขนส่งรถโดยสารไม่ประจำทาง ให้เข้ารับการตรวจสภาพเพื่อดูเรื่องการให้บริการ ซึ่งถือเป็นการสังคยานารถโดยสาธารณะทั้งหมดเพื่อให้เกิดความปลอดภัย 3.ให้กรมการขนส่งทางบก บูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและสถานศึกษาธิการ และสถานศึกษาทั่วประเทศในกรณีที่จะนำรถเช่าเหมา หรือรถโดยสารไม่ประจำทางไปใช้บริการ ให้ประสานงานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง 4. พนักงานขับรถและผู้ประจำรถ ต้องได้รับการอบรม และทดสอบ การเผชิญเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้โดยสารตามหลักสูตรการเผชิญเหตุและการช่วยเหลือผู้โดยสาร (Crisis Management) ทุกคนต้องได้รับการฝึกอบรม และ 5.จะออกกฎหมาย ระเบียบ เพื่อให้ผู้ประกอบการต้องมีการแนะนำข้อมูล และแนวทางเผชิญเหตุฉุกเฉินในการใช้บริการเช่นเดียวกับสายการบิน โดยเมื่อผู้โดยสารขึ้นรถพนักงานต้องให้การแนะนำการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินกรณีมีเหตุ และเส้นทางการหนีภัย เพื่อให้ผู้โดยสารเตรียมพร้อมหากมีเหตุฉุกเฉิน
นายสุริยะ กล่าวว่า จากนี้กระทรวงจะเข้าไปดูการออกแบบรถโดยสาร ว่าจำนวนที่นั่งเหมาะสมหรือไม่ มีทางออกควรเพิ่มเติมอย่างไร รวมถึงกรณีต้องเดินทางไกลควรต้องมีคนขับรถ 2 คนเป็นมาตรการที่กระทรวงจะทำตั้งแต่วันนี้ เมื่อถามว่าสำหรับอายุรถยนต์ต้องกวดขันหรือไม่เพราะคันที่เกิดเหตุพบว่ามีอายุกว่า 54 ปี ถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะต้องใช้ เพราะในอดีตเวลาที่กระทรวงจะออกมาตรการบังคับ พวกผู้ประกอบการทั้งหลายก็จะไม่ยินยอมและมาขอร้อง มาประท้วง แต่จากนี้ไปเราคงยอมไม่ได้ ผมจะใช้โอกาสนี้ออกมาตรการอย่างเด็ดขาดจะให้เป็นเช่นเดิมต่อไปไม่ได้แล้ว และมองภาพรวมไปถึงรถโดยสารสาธารณะรถตู้ทั้งหลาย ถ้าอายุเกินเราจะไม่ต่อให้เด็ดขาดไม่ว่าจะมาประท้วงหรือมาขอร้อง จะถือโอกาสครั้งนี้ไม่ยอมกันอีกแล้ว
ขณะที่จากแนวคิดจะให้มีการยกเลิกการใช้แก๊ซ NGV แต่มีเรื่องราคาพลังงานจะแก้ปัญหานี้อย่างไร นายสุริยะ กล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้แก๊ซ NGV แต่ขอให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด เพื่อจะได้ดูว่าตรงไหนเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกิดประกายไฟและระเบิดได้ง่าย เชื่อบริเวณข้อต่อที่เชื่อมกับถังแก๊ซ ซึ่งขณะนี้กรมการขนส่งทางบกเข้าไปตรวจสอบรถที่เกิดเหตุและรถที่ร่วมขบวนอยู่เพื่อจะได้นำมาออกแบบบังคับและประกาศเป็นกฎกระทรวงใช้ต่อไป
ส่วนการอนุมัติงบประมาณในการเยียวยา นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทประกันภัยที่ทางกระทรวงมีกฎหมายบังคับให้ทำประกันทุกครั้งนั้น ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงิน 1 ล้านบาท ส่วนที่เพิ่มเติม วันนี้ได้ประชุมกองทุนช่วยเหลือสาธารณภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะให้เพิ่มอีกรายละ 1 ล้านบาท รวมเป็นสองล้าน และมีจากกระทรวงยุติธรรม รวมแล้วผู้เสียชีวิตแต่ละรายจะได้รับเงิน 2.4 ล้านบาท อีกทั้งได้ประสานกระทรวงศึกษาธิการให้ตรวจสอบรายละเอียดเพื่อจะได้เร่งส่งมอบเงินเยียวยาซึ่งคาดว่าจะได้ภายในสัปดาห์หน้า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจะได้รับเงินเยียวยาคนละ 7 แสนบาท บาดเจ็บเล็กน้อยได้คนละ 2 แสนบาท