"วราวุธ" ลั่นพัฒนาคนหูหนวกให้เข้าใจภาษามือมากขึ้น

2024-09-28 15:15:25

"วราวุธ" ลั่นพัฒนาคนหูหนวกให้เข้าใจภาษามือมากขึ้น

Advertisement

"วราวุธ" เปิดงานวันภาษามือโลกและงานสัปดาห์หูหนวกโลก 2567 ระบุไม่ได้รู้สึกคนหูหนวกเป็นคนพิการ แค่มีวิธีสื่อสารที่ต่างจากบุคคลทั่วไป เผยคนหูหนวกเข้าใจภาษามือแค่ 1 แสนคนจาก 4 แสนคน    หวังพัฒนาให้เข้าใจภาษามือมากขึ้น

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.67 ที่เดอะสตรีท (The Street) รัชดา  กทม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันภาษามือโลกและงานสัปดาห์หูหนวกโลก ประจำปี 2567 ภายใต้หัวข้อ "Sign Up for Sign Language Right"  ร่วมรณรงค์เพื่อสิทธิของผู้ใช้ภาษามือ โดยมี นายวิทยุต บุนนาค นายกสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหาร  พม. และคณะผู้บริหารสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย ผู้แทนภาคีเครือข่ายคนพิการ เข้าร่วมงาน

นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญต่อการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง อาทิ คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อย เพื่อสร้างความเสมอภาคและความเท่าเทียมในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดการเลือกปฏิบัติ เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสร้างเสริมโอกาสให้คนทุกกลุ่ม รวมถึงคนพิการหูหนวกและคนหูตึงได้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการและบริการของรัฐ และที่สำคัญคือการสร้างเสริมศักยภาพคนพิการหูหนวก และสร้างความเข้มแข็งขององค์กรคนหูหนวก ภายใต้นโยบายและทรัพยากรของรัฐที่เอื้ออำนวยให้คนพิการหูหนวกและคนหูตึง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างเสมอภาคกับทั่วไปในสังคม ทั้งนี้ รัฐบาลและหน่วยงานภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล ตลอดจนกระทรวง พม. ในฐานะหน่วยงานหลักในการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านคนพิการ ด้วยการให้ความสำคัญต่องานพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทุกด้าน สำหรับคนพิการหูหนวกมีการจัดให้มีสิทธิ สวัสดิการ และความช่วยเหลือต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิต ได้แก่ เบี้ยความพิการ การจัดบริการล่ามภาษามือทั่วประเทศ การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการหูหนวก การสนับสนุนความเข้มแข็งขององค์กรคนพิการหูหนวก และการพัฒนาศักยภาพคนพิการหูหนวก การจัดงบประมาณสนับสนุนโครงการต่างๆ ขององค์กรคนพิการหูหนวกทุกจังหวัดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเสมอมา อีกทั้งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนทุกกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการหูหนวกและคนหูตึงในอนาคต


นายวราวุธ กล่าวต่อว่า งานวันนี้ประเทศไทยจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองงานวันภาษามือโลกและงานสัปดาห์หูหนวกโลกเช่นเดียวกับนานาประเทศทั่วโลก ขอสนับสนุนการจัดงานของสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย ที่ตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนอีกกลุ่มหนึ่งในสังคม ให้สามารถแสดงอัตลักษณ์ของกลุ่มคนที่มีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ทำให้ได้มีโอกาสสัมผัสโลกของคนพิการหูหนวก ได้เรียนรู้พลัง ความสามารถ ศักยภาพ และมุมมองของคนพิการหูหนวกผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย นอกจากนี้ งานวันนี้ สามารถเป็นต้นแบบของการจัดการเข้าถึงระหว่างคนทั่วไปกับคนพิการหูหนวก ที่เกิดจากความพยายามเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและลดอุปสรรคในการสื่อสาร เพื่อพิสูจน์ว่าคนพิการหูหนวกมีความสามารถจัดทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเองผ่านกิจกรรม อาทิ การแสดง การประกวดภาษามือ ความสามารถด้านการทำงานวิชาการ การออกบูธแสดงผลงานและความสามารถในการประกอบอาชีพ

นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านที่ได้เห็นความสามารถ และศักยภาพของคนพิการหูหนวก จะสามารถบอกเล่า ถ่ายทอด และเผยแพร่ให้คนในสังคมได้รับรู้และเข้าใจ ตระหนัก และเคารพสิทธิคนพิการหูหนวก และสิทธิในการใช้ภาษามือ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเฉพาะ รวมทั้งสามารถประยุกต์ใช้ในการทำงานให้เหมาะสมและสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของท่าน เพื่อร่วมกันยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการหูหนวก และหวังว่าคนพิการหูหนวกที่มาร่วมงานจะมีความสุขในการเผยแพร่ความภาคภูมิใจในการเป็นคนพิการหูหนวก การมีภาษามือไทย รวมถึงการแสดงศักยภาพของท่านให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน และมีกำลังใจในการพัฒนาศักยภาพตนเองและประเทศ

นายวราวุธ กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานวันภาษามือโลกและงานสัปดาห์หูหนวกโลก ประจำปี 2567 ทำให้ได้เห็นศักยภาพของพี่น้องคนหูหนวก ตนไม่ได้รู้สึกว่าพี่น้องคนหูหนวกเป็นคนพิการ เพียงแต่มีวิธีสื่อสารที่ต่างกันออกไปจากบุคคลทั่วไป ในทางตรงกันข้ามพี่น้องคนหูหนวกนั้นมีศักยภาพในการทำงานมากกว่าคนปกติเสียด้วยซ้ำ ได้เปรียบในการทำงานบางพื้นที่และในบางงาน ซึ่งตั้งแต่ตนได้มีโอกาสมาทำงานเป็น รมว.พม. ได้ตั้งเป้าว่าเราจะต้องช่วยกันพัฒนาภาษามือของไทย ทำให้คนไทยรวมถึงพี่น้องคนพิการและพี่น้องคนหูหนวกนั้น ได้เข้าใจภาษามือมากขึ้น เพราะวันนี้พี่น้องคนหูหนวกหรือพิการทางการได้ยิน มีอยู่ประมาณ 4 แสนกว่าคน แต่ใน 4 แสนกว่าคนนั้น มีคนเข้าใจภาษามือเพียงแค่ 1 แสนคนเท่านั้น ดังนั้นยังเหลืออีกประมาณ 3 แสนกว่าคน ที่จำเป็นต้องเรียนรู้และสื่อสารกับคนภายนอก และเมื่อทำได้อย่างนั้น พี่น้องคนหูหนวกจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย พัฒนาเศรษฐกิจไทย เพราะวันนี้คำว่าความสำเร็จทางธุรกิจ ไม่ได้แปลว่ามีกำไรมากอีกต่อไป แต่หมายถึงการพัฒนาธุรกิจไปข้างหน้า ทำให้สังคมเดินไปข้างหน้า โดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เดินไปพร้อมๆ กัน เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนโดยแท้จริง การได้มีโอกาสมางานในวันนี้ต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวหูหนวกทุกท่าน ที่ทำให้วันเสาร์ของตนนี้เป็นวันที่มีพลังในการทำงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความรู้สึกเหล่านี้จะถ่ายทอดไปยังทุกท่านและผู้ที่ได้อ่านข่าวนี้ทุกๆ คน มาเป็นกำลังและมาช่วยกันส่งเสริมภาษามือให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน